คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องเรียกทรัพย์มฤดกเมื่อเกิน 1 ปีนับแต่เจ้ามฤดกตาย ย่อมขาดอายุความ,พูดรับรองจะแบ่งมฤดกให้ด้วยวาจามิได้ทำเป็นหนังสือ ย่อมไม่มีผลในกฎหมายแต่ประการใดเลย,การขยายอายุความตามประมวลแพ่ง ฯ ม.184 จะใช้ได้แต่ฉะเพาะในกรณีที่ผู้เยาว์หรืผู้วิกลจริตจะว่ากล่าวเป็นคดีแก่ผู้แทนโดยชอบธรรมของตนเองเท่านั้น

ย่อยาว

ได้ความว่าพวกจำเลยและบิดาโจทก์เป็นบุตร์ ค.และ ซ.บิดาโจทก์ตายมาประมาณ ๒๐ ปีแล้ว ส่วน ค.และ ข.ตายที่เมืองจีนมาประมาณ ๑๐ ปี เมื่อ ค.และข.ตายแล้วจำเลยซึ่งเป็นบุตร์ได้ร่วมกันปกครองทรัพย์มฤดกมาฝ่ายเดียว โจทก์หรือมารดาโจทก์มิได้เกี่ยวข้องด้วย บัดนี้โจทก์มาฟ้องเรียกทรัพย์มฤดกของ ค.และ ข.และของบิดาตน
ศาลฎีกาตัดสินว่า โจทก์นคดีมาฟ้องเกิน ๑ ปี จึงขาดอายุความ ส่วนข้อที่ผู้ปกครองมฤดกคนหนึ่งได้พูดรับรองว่าจะแบ่งมฤดกให้โจทก์นั้น ไม่มีผลในกฎหมาย เพราะเป็นแต่ดูด้วยวาจามิได้ทำเป็นหนังสือ จะถือว่าเป็นการปราณีประนอมยอมความหรือรับสภาพหนี้ตามประมวลแพ่ง” ม.๘๕๑,๑๗๒ มิได้ ส่วนข้อที่ว่าคดีของโจทก์ก็ตกอยู่ในบังคับ ม.๑๘๔ นั้น เห็นว่าเรื่องนี้จำเลยซึ่งเป็นผู้ปกครองมฤดกมิได้เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์ จึงยกมาตรานี้มาบังคับมิได้ ที่ศาอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้ว จึงพิพากษายืนตาม

Share