คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2982/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 2 ผู้เป็นบิดายอมให้จำเลยที่ 1 ผู้เป็นบุตรอายุเพียง 15 ปี ขับขี่รถยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะออกไปตามถนนสาธารณะ อันเป็นการเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 2 มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลบุตรผู้เยาว์ จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดในผลละเมิดกับจำเลยที่ 1

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ผู้เยาว์ ขับขี่รถยนต์ได้ขับขี่รถยนต์ซึ่งไฟหน้ารถด้านขวาไม่ติดของจำเลยที่ ๒ บิดา โดยจำเลยที่ ๒+ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ เฉี่ยวชนกับรถยนต์บรรทุกสิบล้อที่จำเลยที่ ๓ ที่ ๕ ขับโดยความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ ๑ ที่ ๓ ที่ ๕ ทำให้โจทก์เสียหลัก จำเลยที่ ๓ ที่ ๕ เป็นลูกจ้างและกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๖ ตามลำดับ ขอให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ให้การว่า เหตุที่เกิดไม่ใช่ความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ ๑ แต่เกิดจากความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ ๓ ที่ ๕ จำเลยที่ ๒ เคยว่ากล่าวตักเตือนไม่ให้จำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์อยู่เสมอ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๓ ถึงที่ ๖ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๓ ถึงที่ ๖
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าเหตุเฉี่ยวชนกันเกิดจากความประมาทของจำเลยที่ ๑ วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่จำเลยที่ ๒ ผู้เป็นบิดายอมให้จำเลยที่ ๑ ผู้เป็นบุตรอายุเพียง ๑๕ ปี ขับขี่รถยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะออกไปตามถนนสาธารณะอันเป็นการเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ ๒ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลบุตรผู้เยาว์ จำเลยที่ ๒ จึงต้องร่วมรับผิดในผลละเมิดกับจำเลยที่ ๑ ฯลฯ
พิพากษาแล้วเป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ฯลฯ

Share