แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยโฆษณาข้อความในหนังสือพิมพ์ซึ่งจำเลยเป็นบรรณาธิการมีใจความว่าเทศบาลเมืองราชบุรีจะขายที่ดิน (ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงพยาบาล ราชบุรี) ให้แก่โรงพยาบาลราชบุรี ถ้าทางโรงพยาบาลไม่ซื้อและ ไม่คืนที่ดินและอาคารให้เทศบาล เทศบาลดังกล่าวจะฟ้องขับไล่ โรงพยาบาล และยึดที่ดินพร้อมด้วยอาคารมาดำเนินการเอง ซึ่งข้อความที่บันทึกไว้ในรายงานการประชุมสภาเทศบาลนั้น ตรงกับข้อความที่จำเลยโฆษณา จำเลยมิได้โฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยเป็นการโฆษณาข้อความเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในการประชุมโดยสุจริต และด้วยความเป็นธรรม จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยโฆษณาข้อความในหนังสือพิมพ์ก้าวหน้าที่จำเลยเป็นบรรณาธิการ ว่าเทศบาลเมืองราชบุรีจะฟ้องขับไล่โรงพยาบาลราชบุรี ให้คืนที่ดินและอาคารหากโรงพยาบาลไม่มีทางหาเงินซื้อไว้ ทางเทศบาลจะยึดโรงพยาบาลมาดำเนินกิจการเอง ซึ่งเป็นการหมิ่นประมาทเทศบาลเมืองราชบุรี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 ข้อ 7, 8
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 1,000 บาท ให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับ จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยได้โฆษณาข้อความในหนังสือพิมพ์ “ก้าวหน้า” ฉบับประจำวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2521 ซึ่งจำเลยเป็นบรรณาธิการมีใจความสรุปได้ว่า เทศบาลเมืองราชบุรีจะขายที่ดิน (ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงพยาบาลราชบุรี) ให้แก่โรงพยาบาลราชบุรี ถ้าทางโรงพยาบาลไม่ซื้อและไม่คืนที่ดินและอาคารให้เทศบาล เทศบาลดังกล่าวจะฟ้องขับไล่โรงพยาบาลและยึดที่ดินพร้อมด้วยอาคารมาดำเนินการเอง จำเลยอ้างว่าข้อความที่จำเลยโฆษณานั้นเป็นความจริง ซึ่งได้จากการประชุมสภาเทศบาลเมืองราชบุรีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2521 และจำเลยโฆษณาเพื่อช่วยเหลือมิให้ประชาชนผู้เจ็บป่วยได้รับความเดือดร้อน ศาลฎีกาพิจารณารายงานการประชุมคือ เอกสารหมาย จ.1 แล้ว ปรากฏว่าในการประชุมครั้งนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติให้เทศบาลเมืองราชบุรีจำหน่ายที่ดินและอาคารให้โรงพยาบาลราชบุรีโดยกำหนดราคาที่ดินไร่ละ 350,000 บาท ส่วนอาคารให้เปล่าและในการประชุมดังกล่าว นายณรงค์นายกเทศมนตรีได้แถลงแก่ที่ประชุมสรุปความได้ว่าถ้าโรงพยาบาลราชบุรีไม่มีเงินซื้อที่ดิน เทศบาลเมืองราชบุรีก็จะขอโอนกิจการโรงพยาบาลมาดำเนินการเอง และหากโรงพยาบาลไม่ซื้อและไม่ยอมย้ายออกไปตามกำหนดเวลาก็ต้องขับไล่ ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่าหากโรงพยาบาลราชบุรีไม่ซื้อและไม่คืนที่ดินและอาคาร เทศบาลเมืองราชบุรี จะฟ้องขับไล่ และเข้าดำเนินกิจการโรงพยาบาลเอง ซึ่งตรงกับข้อความที่จำเลยโฆษณา จำเลยจึงมิได้โฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ อนึ่ง พฤติการณ์ของจำเลย เป็นการโฆษณาข้อความอันเป็นเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในการประชุมโดยสุจริตและด้วยความเป็นธรรม จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
พิพากษายืน