แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 โดยกล่าวในฟ้องว่า จำเลยได้โฆษณาด้วยเครื่องกระจายเสียงต่อชุมนุมชนซึ่งมาประชุมกันว่า’ทนายความเมืองร้อยเอ็ดคบไม่ได้ เป็นนกสองหัวเหยียบเรือสองแคม เป็นมวยล้ม ว่าความทีแรกดี ครั้นได้รับเงินแล้วก็ว่าเป็นอย่างอื่น’ และได้กล่าวในฟ้องด้วยว่าทนายความจังหวัดร้อยเอ็ดมีอยู่ในวันที่จำเลยกล่าวข้อความนี้เพียง 10 คนและในขณะที่จำเลยกล่าว จำเลยได้เห็นโจทก์ซึ่งเป็นทนายความคนหนึ่งประกอบอาชีพว่าความอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ดเข้าประชุมอยู่ด้วยกับยืนยันมาในฟ้องว่าการที่จำเลยกล่าวเช่นนั้นก็โดยมีเจตนาหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์และบรรดาผู้ประกอบอาชีพทนายความในจังหวัดร้อยเอ็ดทุกคนให้ได้รับความเสียหายดังนี้ เป็นฟ้องที่ควรให้มีการไต่สวนมูลฟ้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป (ประชุมใหญ่ ครั้งที่10/2505)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้โฆษณาด้วยเครื่องกระจายเสียงต่อชุมนุมชนซึ่งมาประชุมกันโดยกล่าวว่า “ทนายความเมืองร้อยเอ็ดคบไม่ได้ เป็นนกสองหัว เหยียบเรือสองแคม เป็นมวยล้มว่าความทีแรกดีครั้นได้รับเงินแล้ว ก็ว่าเป็นอย่างอื่น จำเลยกล่าวโดยเห็นโจทก์ซึ่งจำเลยรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นทนายความคนหนึ่งได้เข้าประชุมด้วย คำว่าทนายความเมืองร้อยเอ็ด หมายความว่าผู้มีอาชีพทนายความว่าความอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งมีเพียง 10 คน (ระบุชื่อทนายความทั้ง 10 คนรวมทั้งตัวโจทก์ด้วย) ซึ่งจำเลยและหมู่ประชาชนรู้ดีว่าคำว่าทนายความเมืองร้อยเอ็ด นั้นหมายถึง โจทก์และทนายที่กล่าวชื่อมาแล้วเท่านั้น คำกล่าวของจำเลยเป็นการใส่ความโจทก์และทนายความในจังหวัดร้อยเอ็ดทุกคนให้ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชังขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328
ศาลชั้นต้นสั่งในคำฟ้องว่า ตามคำบรรยายฟ้องไม่ปรากฏโดยชัดแจ้งว่าจำเลยหมายถึงตัวโจทก์ เป็นแต่จำเลยกล่าวมาลอย ๆ ยังไม่พอถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)จึงไม่ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่มีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นายหนึ่งทำความเห็นแย้ง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่แล้ว เห็นว่า โจทก์ได้กล่าวในฟ้องว่าทนายความจังหวัดร้อยเอ็ดมีอยู่ในวันที่จำเลยกล่าวข้อความนี้เพียง 10 คน และในขณะที่จำเลยกล่าว จำเลยได้เห็นโจทก์ซึ่งเป็นทนายความคนหนึ่งประกอบอาชีพว่าความอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ดเข้าประชุมอยู่ด้วย กับยืนยันว่า การที่จำเลยกล่าวเช่นนั้นก็โดยมีเจตนาหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์และบรรดาผู้ประกอบอาชีพทนายความในจังหวัดร้อยเอ็ดทุกคนให้ได้รับความเสียหาย เมื่อข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้องมีอยู่ดังนี้ จึงควรที่จะดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องของโจทก์ต่อไปก่อน ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี