คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2944/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

แม้ตามสัญญากู้ยืมเงินจะระบุว่า พ. สั่งจ่ายเช็คธนาคารนครหลวงไทย จำกัด เพื่อชำระหนี้เงินกู้แก่โจทก์ แต่เมื่อไม่มีการนำเช็คฉบับดังกล่าวไปเรียกเก็บเงิน และต่อมา พ. ถึงแก่กรรมหนี้เงินกู้จึงยังไม่ระงับ โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ พ. ชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมได้ การที่โจทก์ไม่นำเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้กู้ยืมไปเรียกเก็บเงินก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องให้ชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องให้ชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้จำนวน 702,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 520,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยในฐานะทายาทของนายพิสุทธิ์ พงศาปรมัตถ์ ลูกหนี้โจทก์ชำระเงินจำนวน 520,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2539 เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยคำนวณจนถึงวันฟ้อง (วันที่ 14 มกราคม 2542) ต้องไม่เกิน 182,000 บาท หากไม่ชำระหนี้ดังกล่าวให้ยึดทรัพย์มรดกของนายพิสุทธิ์ออกขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์จนครบถ้วน แต่ทั้งนี้จำเลยรับผิดไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกตกทอดแก่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์และจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้งฟังได้ว่า นายพิสุทธิ์ พงศาปรมัตถ์ สามีจำเลยได้กู้เงินโจทก์จำนวน 520,000 บาท ต่อมาวันที่ 30 สิงหาคม 2541 นายพิสุทธิ์ถึงแก่กรรม จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายพิสุทธิ์ มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อแรกว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ จำเลยฎีกาว่า ตามสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมาย จ.1 กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ในวันที่ 20 สิงหาคม 2541 ผู้กู้ได้มอบเช็คธนาคารนครหลวงไทย จำกัด สาขาเชียงใหม่ ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2541 จำนวน 520,000 บาท เพื่อชำระหนี้เงินตามสัญญากู้เมื่อถึงกำหนดชำระหนี้ตามเช็คผู้ให้กู้ต้องนำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินกับธนาคารตามเช็คทันที การที่โจทก์ไม่นำเช็คไปเรียกเก็บเงินตามสัญญา โจทก์จึงเสียสิทธิในการฟ้องคดี เห็นว่า แม้ตามสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมาย จ.1 จะระบุว่านายพิสุทธิ์ได้สั่งจ่ายเช็คธนาคารนครหลวงไทย จำกัด เพื่อชำระหนี้เงินกู้แก่โจทก์ แต่เมื่อไม่มีการนำเช็คฉบับดังกล่าวไปเรียกเก็บเงิน และต่อมานายพิสุทธิ์ถึงแก่กรรมหนี้เงินกู้จึงยังไม่ระงับ โจทก์จึงฟ้องเรียกให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของนายพิสุทธิ์ชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเอกสารหมาย จ.1 ได้ ถึงแม้โจทก์จะไม่นำเช็คที่ออกเพื่อชำระเงินกู้ยืมไปเรียกเก็บเงินก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องให้ชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 วินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย…”
พิพากษายืน

Share