แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดฐานละเมิด เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยทำให้รถยนต์ของโจทก์เสียหายจริง จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 การที่โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ขับรถเองและได้รับบาดเจ็บแต่ทางพิจารณาได้ความว่าผู้อื่นเป็นผู้ขับ และโจทก์มิได้โดยสารไปด้วยไม่เป็นข้อแตกต่างสำคัญที่จะให้ยกฟ้องได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์18,615 บาท กับดอกเบี้ย จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ขับและได้บาดเจ็บ แต่ทางพิจารณาได้ความว่า นายสัณห์ชัย เจริญโสภา เป็นผู้ขับ โจทก์มิได้โดยสารไปด้วย จำเลยก็ให้การต่อสู้ไว้แล้วว่ามิได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในท้องสำนวนจึงแตกต่างกับฟ้อง ควรที่ศาลฎีกาจะยกฟ้อง เห็นว่าโจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน 3 ข – 4189 ฟ้องจำเลยให้รับผิดฐานละเมิด เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โดยทำให้รถของโจทก์เสียหายจริงจำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 ข้อแตกต่างที่จำเลยฎีกามา ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่า ไม่ใช่ข้อสารสำคัญที่จะให้ยกฟ้อง”
พิพากษายืน