แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่จำเลยเป็นหนีในระวางอุทธรณ์นั้นเป็นเรื่องอายุความ ไม่ใช่เรื่องล่วงเลยการลงอาชญาการนับอายุความให้นับตั้งแต่วันทำผิดเป็นต้นไป
ย่อยาว
เดิมโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๖ ว่าเมื่อวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๖ จำเลยกับพวกสมคมกันลักกระบือของ ว.ไปศษลจังหวัดสวรรคโลกตัดสินให้จำคุกจำเลยฐานรับของโจรมีกำหนด ๑ ปี ๖ เดือน จำเลยอุทธรณ์ ในระวางอุทธรณ์เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๖ จำเลยหนีจากที่คุมขังแต่ศาลไม่ได้ออกหมายเรียกหรื่อจับจำเลย วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๒ จับตัวจำเลยได้ รุ่งขึ้นศาลอ่านคำตัดสินศาลอุทธรณ์ซึ่งตัดสินทับศาลเิมให้จำเลยฟัง จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านว่าจำเลยหลบหนีไป ๕ ปีเศษ ขาดอายุความแล้ว
ศาลจังหวัดสวรรค์โลกเห็นว่าจำเลยหนีในระวางอุทธรณ์ ไม่เป็นการล่วงเลยการลงอาชญาให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีนี้ไม่ใช่เรื่องล่วงเลยการลงอาชญา เป็นเรื่องอายุความ จำเลยหนีไปขาดอายุความแล้ว ให้ปล่อยจำเลยไป
โจทก์ฎีกาเป็นปัญหากฎหมายว่า ยังไม่ขาดอายุความ
ศาลฎีกาเห็นชอบด้วยศาลอุทธรณ์ในข้อที่วินิจฉัยว่า คดีนี้เป็นเรื่องอายุความ ไม่ใช่ล่วงเลยการลงอาชญาเพราะจำเลยหนีในระวางอุทธรณ์การนับอายุความนั้น ตาม ม.๗๙ แล ๘๕ ให้นับตั้งแต่วันที่ได้กระทำผิดเป็นต้นไป นอกจากจะมีเหตุที่อายุความต้องหยุดตาม ม.๗๙ จึงให้ตั้งต้นนับใหม่ตั้งแต่วันที่หยุด คดีนี้มีอายุความเพียง ๕ ปีเท่านั้น ถ้าจะตั้งต้นนับแต่วันจำเลยหนีก็ขาดอายุความ หรือนับตั้งแต่วันยื่นฟ้องคดีก็ขาดอายุความดุลกัน แม้จะตั้งต้นนับอย่างไรคดีนี้ก็ขาดอายุความตาม ม.๗๘ ข้อ ๓ แล้วจึงตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์