คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เช่าถูกผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่แล้วทำยอมความออกจากที่เช่า แม้ผู้เช่าจะยื่นคำแถลงสงวนสิทธิ์เรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาไว้ ก็มาฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้ เพราะเป็นคำแถลงฝ่ายเดียว ผู้ให้เช่าไม่ได้ตกลงด้วย

ย่อยาว

กรณีเดิมว่า จำเลยได้ยื่นฟ้องขอให้ศาลขับไล่โจทก์โดยอ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาเช่าสวน คดีนั้นถึงที่สุดโดยจำเลยและโจทก์ได้ทำสัญญาปรานีประนอมยอมความกัน โจทก์ยอมออกจากสวนที่พิพาทแก่โจทก์ยื่นคำแถลงต่อศาลว่า โจทก์ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเรียกว่าเสียหายจากจำเลยโดยโจทก์ถือว่าโจทก์มิได้ทำผิดสัญญาแต่ประการใดเมื่อจำเลยบังคับให้โจทก์ออกจากที่ก่อนครบกำหนดสัญญา โจทก์จึงถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้เรียกค่าเสียหาย
จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา อำนาจฟ้องร้องของโจทก์ได้ระงับไปตามสัญญาปรานีประนอมยอมความแล้ว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เพราะเหตุที่จำเลยบังคับให้โจทก์ออกจากที่เช่าก่อนครบกำหนดสัญญา โดยโจทก์มิได้ผิดสัญญาอย่างใด การที่โจทก์ออกจากที่นั้น ก็เป็นโดยที่โจทก์ทำสัญญายอมความกับจำเลย เท่ากับโจทก์ทำสัญญากับจำเลยใหม่ยกเลิกสัญญาเดิมโดยสมัครใจ เช่นนี้แล้ว โจทก์จะมาฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้ เพราะจำเลยไม่ได้กระทำผิดสัญญา ที่โจทก์แถลงสงวนสิทธิ์ฟ้องไว้ในคดีก่อนก็เป็นคำแถลงของโจทก์ฝ่ายเดียวไม่ปรากฎว่าจำเลยได้ตกลงด้วย เมื่อโจทก์ไม่มีสิทธิ์เรียกค่าเสียหายการแถลงเช่นนี้ก็ไม่ทำให้โจทก์เกิดสิทธิ์ขึ้นได้ พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share