แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มีอาวุธปืนพกธรรมดาขนาด 9 มม. โดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งตามกฎกระทรวงมหาดไทยออกตามความในมาตรา 7 แห่ง พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯลฯ 2477(ฉบับที่ 4) ข้อ 1(5) ห้ามมิให้ออกใบอนุญาตให้ทำ นำเข้ามา หรือสั่งอาวุธปืนชนิดนี้ มิได้กล่าวถึงการมีไว้และมิได้กล่าวระบุไว้ว่าเป็นอาวุธปืนชนิดอันต้องห้าม นั้น
ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำฝ่าฝืนต่อมาตรา 7 ในส่วนที่ 2 หมวด 1 แห่ง พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯลฯ จะลงโทษตามมาตรา54 ไม่ได้ คงผิดแต่เพียงมาตรา 52 เท่านั้น
มีอาวุธปืนก่อนปี 2490 คดีอยู่ระหว่างพิจารณา และศาลฎีกาตัดสินเมื่อพ้นกำหนดผ่อนผันการจดทะเบียนตามมาตรา 86 แล้วย่อมลงโทษได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ไม่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2477 มาตรา 7, 9, 11, 52, 54
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง และไม่ขอสืบพยานฝ่ายโจทก์ขอสืบพยาน แต่ศาลเห็นไม่จำเป็นแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ 2477 มาตรา 52
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตามมาตรา 54
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ปืนของกลางในคดีนี้ เป็นปืนพกขนาด 9 มม. ซึ่งตามกฎกระทรวงมหาดไทยออกตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ2477 (ฉบับที่ 4) ข้อ 1(5) ห้ามมิให้ออกใบอนุญาตให้ทำนำเข้ามา หรือสั่งอาวุธปืนชนิดนี้ แต่มิได้กล่าวถึงการมีว่าถ้าผู้ใดมีอาวุธปืนชนิดนี้ จะออกใบอนุญาตได้หรือไม่ และมิได้กล่าวว่า อาวุธปืนที่ระบุไว้เป็นอาวุธปืนชนิดอันต้องห้าม เป็นแต่ห้ามมิให้ออกใบอนุญาตให้ทำ นำเข้ามาหรือสั่ง จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยฝ่าฝืนมาตรา 7 ในส่วนที่ 2 หมวด 1 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ จึงลงโทษตามมาตรา 54 ไม่ได้ พิพากษายืน