คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2897/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินจำเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทมีใบจอง(น.ส.2)เป็นเชื่อของล. จำเลยครอบครองมาถือว่าจำเลยไม่ได้ต่อสู้กรรมสิทธิ์จึงเป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ที่ดินพิพาทมีเนื้อที่เพียง3งานหากให้เช่าน่าจะได้ค่าเช่าไม่เกินเดือนละสี่พันบาทจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา224วรรคสองที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าแม้ที่ดินพิพาทมีหลักฐานใบจองจึงโอนกันไม่ได้ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา10แต่ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าจึงโอนสิทธิครอบครองแก่กันได้โดยการส่งมอบทรัพย์สินที่ครอบครองนั้นเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบและถือว่าข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยไม่มีสิทธิฎีกาต่อมาอีกศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และถือครองที่ดินมือเปล่าเนื้อที่ 1 ไร่ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินดังกล่าวจำเลยบุกรุกที่ดินของโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนพืชไร่และปรับปรุงที่ดินพิพาทให้อยู่ในสภาพเดิมห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องหรือกระทำการรบกวน
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้ยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทที่ดินดังกล่าวมีหนังสือใบจอง (น.ส.2) มีชื่อนายหลีบิดาของสามีจำเลยเป็นเจ้าของต่อมานายหลีตายที่ดินพิพาทจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาท จำเลยเข้าทำประโยชน์ตั้งแต่นายหลียังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน จึงมีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวโดยชอบขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนพืชไร่ออกไปจากที่ดินพิพาทและปรับปรุงที่ดินพิพาทให้อยู่ในสภาพเดิม ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่ดินพิพาทมีใบจอง (น.ส.2) เป็นหลักฐานซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรให้ราษฎรไว้ทำกิน ตามประมวลกฎหมายที่ดินไม่สามารถจำหน่ายจ่ายโอนได้นอกจากเป็นการตกทอดทางมรดก การขายและการครอบครองต่อ ๆมาเป็นโมฆะ มาเป็นโมฆะ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้นเห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทมีใบจอง (น.ส.2) เป็นชื่อของนายหลี จำเลยครอบครองมา จำเลยไม่ได้ต่อสู้กรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ที่ดินพิพาทมีเนื้อที่เพียง 3 งาน หากให้เช่าน่าจะได้ค่าเช่าไม่เกินเดือนละสี่พันบาท จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสอง ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า แม้ที่ดินพิพาทมีหลักฐานใบจองจึงโอนกันไม่ได้ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 10 แต่ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าจึงโอนสิทธิครอบครองแก่กันได้โดยการส่งมอบทรัพย์สินที่ครอบครอง เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นการไม่ชอบ และถือว่าข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยไม่มีสิทธิฎีกาต่อมาอีก
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ และให้ยกฎีกาของจำเลยคืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้จำเลย ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share