แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยลงลายมือชื่อในเช็ค ไม่มีประเด็นว่าบุตรจำเลยลงชื่อจำเลยแล้วจำเลยรู้เห็นไม่ทวงเช็คคืน จึงต้องตัดบทมิให้ยกประเด็นข้อลายมือปลอมขึ้นต่อสู้ศาลยกข้อนี้ขึ้นพิพากษาให้จำเลยรับผิดตามเช็คไม่ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้เงินตามเช็ค 2 ฉบับตามฟ้อง จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงซึ่งศาลล่างทั้งสองฟังตรงกันและในชั้นนี้คู่ความมิได้โต้เถียงกันอีก เป็นยุติแล้วว่าลายมือชื่อเป็นภาษาจีนว่า “ตั้ง โก้ว” ซึ่งเป็นชื่อของจำเลยที่ 2 ในเช็ครายพิพาททั้งสองฉบับนี้ จำเลยที่ 2 มิได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อ แต่นางสาวอรนุช วิริยะพุทธิวงศ์บุตรสาวของจำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงลายมือชื่อนั้น ศาลชั้นต้นเห็นว่าเมื่อจำเลยที่ 2 มิได้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็ครายพิพาท จำเลยที่ 2 ก็ไม่ต้องรับผิดและไม่อาจถือได้ว่าห้างจำเลยที่ 1 ได้สั่งจ่ายเช็ครายพิพาทด้วย จึงพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต่อไปด้วยว่า นางสาวอรนุชช่วยจำเลยที่ 2 ขายของอยู่ที่ห้างจำเลยที่ 1 นางสาวอรนุชเคยสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์เพื่อนำไปขายในห้างจำเลยที่ 1 ครั้งสุดท้ายคิดหนี้สินกันแล้ว ปรากฏว่าจำเลยยังเป็นหนี้โจทก์อยู่ 55,000 บาท เหตุที่นางสาวอรนุชออกเช็ครายพิพาทเนื่องจากนายรังสรรค์นำเช็คที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเงิน 55,000 บาทไปคืนเพราะขึ้นเงินไม่ได้ หลังจากออกเช็ครายพิพาทแล้วนางสาวอรนุชบอกให้จำเลยที่ 2 ทราบ จำเลยทราบแล้วก็มิได้ทวงถามเอาเช็ครายพิพาทคืนจากโจทก์หรือนายรังสรรค์ พฤติการณ์ดังนี้ศาลอุทธรณ์ถือว่าจำเลยทั้งสองอยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอมหรือข้อลงลายมือชื่อปราศจากอำนาจขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็ค ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1008 วรรคแรก เห็นว่าจำเลยทั้งสองต้องรับผิดต่อโจทก์ จึงพิพากษาให้จำเลยร่วมกันใช้เงินตามจำนวนในเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ยจึงเกิดเป็นปัญหาขึ้นในชั้นนี้ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษานอกฟ้องนอกประเด็นหรือไม่
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ตามสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของคำฟ้องคดีนี้ แสดงว่าโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายเช็ครายพิพาท และประทับตราของห้างจำเลยที่ 1 ซึ่งจะเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นจากข้อนำสืบและอุทธรณ์ของโจทก์เองที่ยืนยันว่านางสาวอรนุช เป็นแต่เพียงผู้เขียนข้อความและจำนวนเงินในเช็ครายพิพาท แต่จำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงลายมือชื่อและประทับตราด้วยตนเองต่อหน้าพยานโจทก์ คดีไม่มีประเด็นว่า จำเลยที่ 2 มิได้ลงลายมือชื่อในเช็ครายพิพาทด้วยตนเอง แต่ก็อยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอมหรือข้อลงลายมือชื่อปราศจากอำนาจขึ้นเป็นข้อต่อสู้คู่สัญญาหรือไม่ กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า ทั้ง ๆ ที่โจทก์พึงทราบได้แน่นอนว่าใครเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็ครายพิพาท เพราะตัวแทนของโจทก์รู้เห็นในขณะที่ฝ่ายจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้โจทก์ โจทก์ก็ยังฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 2 ในฐานะผู้จัดการห้างจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อด้วยตนเอง มิได้กล่าวอ้างว่ามีผู้อื่นปลอมลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 และจำเลยทั้งสองต้องรับผิดต่อโจทก์โดยบทบัญญัติของกฎหมาย เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 มิได้ลงลายมือชื่อเอง แต่มีผู้อื่นปลอมลายมือชื่อจำเลยที่ 2 ย่อมต้องถือว่าโจทก์สืบไม่สมฟ้อง และศาลจะถือเอาพฤติการณ์อื่นซึ่งเป็นข้อเท็จจริงนอกฟ้องนอกประเด็นมาวินิจฉัยให้จำเลยต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็ครายพิพาทหาได้ไม่”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง