แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้พนักงานของบริษัทส.ผู้ส่ง ได้ลงชื่อไว้ในใบรับเอกสารซึ่งมีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งก็ตาม แต่บริษัทฮ.ผู้ส่งซึ่งเป็นนิติบุคคลมิได้แสดงความตกลงด้วยโดยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ดังนี้ ข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 ประกอบ กับสินค้าพิพาทเป็นยาแม้จะมีราคาค่อนข้างสูงก็ถือไม่ได้ว่าเป็นของมีค่าอย่างอื่นตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 620 วรรคหนึ่งบริษัทฮ.ผู้ส่งจึงไม่จำต้องบอกราคาหรือสภาพแห่งของไว้ในขณะที่ส่งมอบแก่จำเลยที่ 1 ผู้ขนส่ง จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดชดใช้ราคาสินค้าพิพาทแก่โจทก์ผู้รับช่วงสิทธิของบริษัทฮ.ผู้ส่งในราคาทรัพย์สินที่แท้จริงซึ่งได้สูญหายไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์ได้รับประกันภัยสินค้าจำพวกยาและเคมีภัณฑ์ของบริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด ผู้เอาประกันภัยต่อมาผู้เอาประกันภัยได้ว่าจ้างจำเลยที่ 1 ขนส่งยาจำนวน14 กล่อง ไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่จำเลยที่ 1 ได้รับมอบสินค้าไว้และขนส่งไปยังปลายทางแล้วแต่กลับส่งมอบแก่จำเลยที่ 2 เสีย ขอให้บังคับจำเลยที่ 2 ส่งมอบยาคืนแก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 237,809 บาท พร้อมดอกเบี้ย6,498.91 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีจากต้นเงิน 237,809 บาทนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ให้การและแก้ไขคำให้การว่า พนักงานของจำเลยที่ 1 ได้ใช้ความระมัดระวังโดยตรวจสอบหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน และสอบถามผู้มาขอรับยาแล้วจึงได้มอบยาให้ไป จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 1 มิได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 ทุจริตยักยอกมา ทั้งเหตุที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ไม่ได้รับยาทั้ง 14 กล่อง ก็ไม่เข้าเหตุที่โจทก์จะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด สินค้าพิพาทราคาไม่เกิน 200 บาท ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 มิได้รับสินค้าขายพิพาทไป ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 237,809 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 10 มีนาคม 2538 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องไม่เกิน 6,498.91 บาท ยกฟ้องจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่า โจทก์ได้รับประกันภัยสินค้าจำพวกยาและเคมีภัณฑ์จากบริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด มีอายุคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2537 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2537 ตามตารางกรมธรรม์เปิดเอกสารหมาย จ.6 และ จ.7 ในระหว่างอายุสัญญาประกันภัยบริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 1 ขนส่งยาจำนวน14 กล่อง ตามสำเนาใบเสร็จรับเงินและสำเนาใบกำกับสินค้าเอกสารหมาย จ.11 และ จ.12 กับใบสำคัญรายการรับฝากส่งพัสดุภัณฑ์เอกสารหมาย จ.13 โดยระบุชื่อโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้รับปลายทาง เมื่อสินค้าไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ แต่จำเลยที่ 1 มิได้ส่งมอบสินค้าดังกล่าวให้แก่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เพราะมีบุคคลอื่นมาติดต่อขอรับของไปเสียก่อนโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่จึงไม่ได้รับสินค้าบริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด จึงเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากโจทก์เป็นเงินจำนวน 237,809 บาท โจทก์ได้ชำระค่าเสียหายให้แก่บริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด ไปแล้ว จึงรับช่วงสิทธิบริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด ผู้เอาประกันมาฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งในใบสำคัญรายการรับฝากส่งพัสดุภัณฑ์เอกสารหมาย จ.13พนักงานของบริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทในการไปฝากจำเลยที่ 1 ส่งสินค้าพิพาทได้ลงชื่อในช่องผู้ฝากของไว้เป็นหลักฐานและผู้ฝากมิได้ระบุว่าสินค้าพิพาทเป็นสินค้าประเภทใด มีราคาเท่าใด จำเลยที่ 1 ฎีกาข้อแรกว่าสินค้าพิพาทมีราคาไม่ถึงจำนวน 237,809 บาท นั้น เห็นว่าฎีกาข้อนี้ของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น
จำเลยที่ 1 ฎีกาข้อสุดท้ายว่า จำเลยที่ 1 ได้จำกัดความรับผิดของมีค่าทุกชนิดที่บรรจุในหีบห่อไว้แล้ว จำเลยที่ 1จึงรับผิดไม่เกิน 200 บาท ตามใบสำคัญรายการรับฝากส่งพัสดุภัณฑ์เอกสารหมาย จ.13 นั้น เห็นว่า ผู้ฝากสินค้าพิพาทแม้จะเป็นพนักงานของบริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด ผู้ส่ง ได้ลงชื่อไว้ในใบรับเอกสารหมาย จ.13 ซึ่งมีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งก็ตาม แต่บริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัดผู้ส่งซึ่งเป็นนิติบุคคลมิได้แสดงความตกลงด้วยโดยชัดแจ้ง ในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ดังนี้ ข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 ประกอบสินค้าพิพาทเป็นยา ซึ่งแม้มีราคาค่อนข้างสูงก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นของมีค่าอย่างอื่นตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 620 วรรคหนึ่ง บริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด ผู้ส่งจึงไม่จำต้องบอกราคาหรือสภาพแห่งของไว้ในขณะที่ส่งมอบแก่จำเลยที่ 1 ผู้ขนส่ง จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาสินค้าพิพาทแก่โจทก์ผู้รับช่วงสิทธิของบริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด ผู้ส่งในราคาทรัพย์สินที่แท้จริง ซึ่งได้สูญหายไปนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616
อนึ่ง การที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า สินค้าพิพาทบริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด ไม่ใช่เจ้าของที่จะนำไปประกันภัยไว้แก่โจทก์ บริษัทเฮิกซ์ไทย จำกัด จึงไม่ใช่ผู้เสียหายเป็นเหตุให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ในประเด็นข้อนี้จำเลยที่ 1ได้แถลงสละประเด็นข้อพิพาทไว้แล้ว ตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 6 สิงหาคม 2539 กรณีจึงถือได้ว่าเห็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบมาตรา 225 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 1 ทั้งหมดฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน