แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดเวลาแล้ว โดยอ้างเหตุผลว่าเพิ่งจะขอยืมเงินจากผู้อื่นได้เมื่อพ้นเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์และรับอุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่ชอบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปกับรื้อถอนบ้านออกจากที่ดินดังกล่าว หากไม่รื้อ โจทก์ขอรื้อถอนเองโดยให้จำเลยออกค่าใช้จ่าย
จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาทโดยให้รื้อถอนบ้านออกไปด้วย ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ ๕,๐๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์ และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์เป็นเงิน ๒,๕๐๐ บาท ค่าธรรมเนียมนอกจากนี้ยกเว้นให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถา โดยให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมศาลดังกล่าวมาชำระภายใน ๓๐ วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๐ จำเลยยื่นคำแถลงเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๐ ขออนุญาตชำระเงินค่าธรรมเนียม ศาลชั้นต้นสั่งว่ามีเหตุอันสมควรอันเป็นเหตุสุดวิสัย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมอนุญาต แล้วมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลย
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายกอุทธณ์ ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์๒,๕๐๐ บาท แก่จำเลย
จำเลยฎีกา โดยได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในเบื้องต้นว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์และรับอุทธรณ์ของจำเลยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ ๒๕มิถุนายน ๒๕๔๐ ว่า ให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์เป็นเงินจำนวน๒,๕๐๐ บาท ค่าธรรมเนียมนอกจากนี้ยกเว้นให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาได้โดยให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาชำระภายใน ๓๐ วัน ตามคำสั่งดังกล่าวนี้ วันครบกำหนดที่จำเลยจะต้องวางค่าธรรมเนียมศาลคือวันที่ ๒๕ กรกฎาคม๒๕๔๐ แต่ปรากฎว่าเมื่อครบกำหนดจำเลยไม่ได้วางค่าธรรมเนียมศาล จำเลยมายื่นคำร้องขอวางเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๐ ซึ่งตามเหตุผลในคำร้องฉบับลงวันที่ดังกล่าวพอถือได้ว่าเป็นคำร้องขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ ตามบทบัญญัติดังกล่าว จำเลยจะต้องยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการวางค่าธรรมเนียมศาลภายในกำหนดเวลาคือวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๐ หากพ้นกำหนดจำเลยจะสามารถยื่นคำร้องได้ต่อเมื่อมีเหตุสุดวิสัย ฉะนั้นเมื่อจำเลยยื่นคำร้องนี้เมื่อพ้นกำหนดเวลาแล้ว และเหตุผลตามคำร้องที่อ้างว่าเพิ่งจะขอยืมเงินจากผู้อื่นได้เมื่อพ้นเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดแล้วถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์และรับอุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยบทกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยนั้นชอบแล้ว ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฏีกาข้ออื่น ๆ ของจำเลยเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง
พิพากษายืน.