คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2883/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ทราบดีว่าห้องแถวที่จำเลยที่ 1 อาศัยอยู่นั้น จำเลยที่ 1 เช่ามาจากโจทก์ การที่จำเลยที่ 2 เบิกความต่อศาลในการพิจารณาคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยที่ 1 ออกจากห้องแถวของโจทก์ว่า ห้องแถวที่จำเลยที่ 1 เช่าอยู่เป็นของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นข้อแพ้ชนะในคดีดังกล่าว ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เบิกความอันเป็นเท็จในข้อสำคัญในการพิจารณาคดีแพ่งดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันเบิกความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในการพิจารณาคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยที่ 1 ออกจากห้องเช่า ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 177

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งประทับฟ้อง

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 วรรค 1 ให้จำคุก 2 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 1

โจทก์และจำเลยที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามฟ้อง

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาโจทก์เฉพาะจำเลยที่ 2 ไม่รับฎีกาโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 เพราะต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ทราบดีว่าห้องแถวที่จำเลยที่ 1 อาศัยอยู่นั้นจำเลยที่ 1 เช่ามาจากโจทก์ พยานหลักฐานจำเลยที่ 2 ฟังไม่ได้ว่าห้องแถวที่จำเลยที่ 1 เช่าเป็นของจำเลยที่ 2 ดังต่อสู้การที่จำเลยที่ 2 เบิกความต่อศาลในการพิจารณาคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยที่ 1 ออกจากห้องแถวของโจทก์ว่า ห้องแถวที่จำเลยที่ 1 เช่าอยู่เป็นของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นข้อแพ้ชนะในการพิจารณาคดีแพ่งดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เบิกความอันเป็นเท็จในข้อสำคัญในการพิจารณาคดีแพ่งจำเลยที่ 2 จึงมีความผิดตามฟ้อง

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share