แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การนำสืบในเรื่องหาว่าจำนำจำเลยให้การว่าไม่ได้จำนำของนั้นไว้แก่โจทก์และไม่ได้ของนั้นไว้แก่โจทก์และไม่ได้ขอผัดโจทก์ในเรื่องจำนำในส่วนตัวจำเลยทั้งสิ้นนั้น ไม่ใช่คำให้การปฏิเสธลอย ๆ คดีมีประเด็นว่าจำเลยได้จำนำจริงหรือไม่ ซึ่งจำเลยนำสืบได้ ฎีกาอุทธรณ์ ข้อกฎหมายอันใดคู่ความมิได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาไม่ต้องวินิจฉัยให้ แม้ศาลอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้องโจทก์ก็ดี แต่ข้อที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดนั้นอาจเป็นเหตุให้จำเลยเสียหายแล้วศาลฎีการับวินิจฉัยให้ ฎีกาคัดค้านค่าธรรมเนียมนั้น ถือว่าเป็นดุลยพินิจ ในคดีที่ฎีกาข้อเท็จจริงได้ ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ แต่ถ้าเป็นการหยุมหยิมอาจไม่เห็นควรแก้ไขการใช้ดุลยพินิจของศาลล่าง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจำนำจี้เพ็ชร์ไว้กับโจทก์ เมื่อทวงถาม จำเลยก็ผัด โจทก์จึงให้ทนายมีหนังสือแจ้งให้จำเลยนำเงิน ๖๐๐ บาทกับดอกเบี้ยที่ค้างไปชำระให้แก่โจทก์ภายใน ๕ วัน ครั้นถึงกำหนดจำเลยมิได้นำเงินมาไถ่ถอนการจำนำ โจทก์จึงนำจี้เพ็ชร์ออกขายทอดตลาดได้เงิน ๒๐๐ บาทเมื่อหักต้นเงินและดอกเบี้ยที่ค้างแล้ว จำเลยยังเป็นลูกหนี้โจทก์อีก ๔๙๐ บาท
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้จำนำจี้เพ็ชร์ไว้แก่โจทก์ และไม่ได้ขอผัดโจทก์ในเรื่องจำนำในส่วนตัวจำเลยทั้งสิ้น กับต่อสู้ว่าโจทก์บังคับจำนำไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่เคยจำนำจี้เพ็ชร์เฉย ๆ ไม่มีประเด็นอันใดจะเป็นข้อนำสืบคงฟังข้อเท็จจริงตามคำพะยานโจทก์ฝ่ายเดียวว่าจำเลยได้จำนำจี้เพ็ชร์ไว้กับโจทก์แล้วไม่ไถ่ถอนตามกำหนดสัญญา ส่วนการบังคับจำนำนั้นโจทก์มิได้ทำหนังสือแต่งตั้งทนายซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ให้ถูกต้องตามป.พ.พ.ม.๓๖๔-๗๙๘ การบอกกล่าวบังคับจำนำนั้นจึงใช้ไม่ได้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยตัดสินยกฟ้องโจทก์ แลให้ค่าธรรมเนียมต่างเป็นพับไป
จำเลยทูลเกล้า ฯถวายฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ศาลอุทธรณ์จะตัดสินยกฟ้องโจทก์ก็ดี แต่ข้อที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดว่าจำเลยได้จำนำจี้เพ็ชร์ไว้แก่โจทก์นั้นอาจเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายนอกจากนั้นจำเลยยังคัดค้านเรื่องค่าธรรมเนียมอีกด้วย กรรมการเห็นว่าคดีนี้จำเลยมิได้ปฏิเสธลอย ๆ ประเด็นข้อนำสืบจึงมีว่าจำเลยได้จำนำจี้เพ็ชร์ไว้กับโจทก์จริงหรือไม่ ซึ่งจำเลยชอบที่จะนำสืบตามข้อต่อสู้ได้ที่ศาลอุทธรณ์ว่าคำให้การของจำเลยไม่มีประเด็นนั้นยังไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาควรต้องยกคำพะยานจำเลยขึ้นวินิจฉัยประกอบด้วยคดีมีจำเลยปากเดียวเบิกความว่าการจำนำรายนี้พี่สาวจำเลยเป็นผู้จำนำ จำเลยไม่ได้เป็นผู้จำนำ แต่ไม่หักล้างพะยานโจทก์ได้จึงฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้เป็นผู้จำนำจี้เพ็ชร์รายนี้ดังศาลล่างชี้ขาดมา แต่ข้อกฎหมายเรื่องการบังคับจำนำนั้น เมื่อโจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านขึ้นมาก็ไม่ต้องวินิจฉัย ส่วนฎีกาเรื่องค่าธรรมเนียมนั้น เห็นว่าจำเลยคัดค้านในข้อดุลยพินิจเป็นการหยุมหยิมไม่ควรแก้ จึงตัดสินยกฎีกาจำเลย