คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับครอบครัวใช้ทางเดินในที่ดินของโจทก์ออกทางสาธารณเกินกว่า 10 ปีแล้ว โดยมีช่องประตูรั้วสำหรับเข้าออกบ้านจำเลยได้ต่อมาโจทก์ทำรั้วใหม่ตามแนวรั้วเดิมที่ผุพังและล้อมปิดกั้นช่องประตูรั้วที่เคยมีเข้าออกบ้านจำเลยเสียด้วยจำเลยไม่มีทางอื่นออก เพราะที่บ้านจำเลยอยู่ในที่ผู้อื่นล้อมรอบมีรั้วกั้น จำเลยร้องต่ออำเภอ ขอให้โจทก์เปิดรั้วให้จำเลยเข้าออกได้โจทก์ไม่ยอมจำเลยจึงได้รื้อรั้วเฉพาะตรงที่เคยเป็นช่องประตูเข้าออกบ้านจำเลยกว้างประมาณ 1 วา เพื่อเดินเข้าออกบ้านจำเลยตามเดิมดังนี้ จำเลยมีสิทธิทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้มีดฟันทำลายรั้วไม้รวกขัดแตะอันเป็นเครื่องหมายเขตกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358, 362, 363

จำเลยให้การภาคเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 362, 363แต่ผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามมาตรา 358 พิพากษาปรับจำเลย 50 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องหมด

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่ารั้วที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยใช้มีดฟันทำลายนี้ เป็นรั้วไม้รวกขัดแตะกั้นตรอกทางเดินในเขตที่ดินของโจทก์ไปออกทางสาธารณะติดกับแนวเขตที่ดินบ้านของจำเลยตามส่วนยาวของทางเดินนั้น จำเลยกับครอบครัวใช้ทางเดินของโจทก์ไปออกทางสาธารณะเช่นเดียวกับโจทก์มาช้านานเกินกว่า 10 ปี ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้ โดยมีช่องประตูรั้วที่กั้นนี้เข้าออกบ้านจำเลยได้ ในคราวเกิดเหตุ โจทก์ทำรั้วใหม่ตามแนวรั้วเดิมที่ผุพังและล้อมปิดกั้นช่องประตูรั้วที่เคยมีเข้าออกบ้านจำเลยเสียด้วย จำเลยไม่มีทางอื่นออกเพราะที่บ้านจำเลยอยู่ในที่ผู้อื่นล้อมรอบมีรั้วกั้น จำเลยร้องต่ออำเภอขอให้โจทก์เปิดรั้วให้จำเลยเข้าออกได้ โจทก์ไม่ยอมจำเลยจึงได้รื้อรั้วเฉพาะตรงที่เคยเป็นช่องประตูเข้าออกบ้านจำเลย กว้างประมาณ 1 วา เพื่อเดินเข้าออกบ้านจำเลยตามเดิม ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมีสิทธิทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 ฯลฯ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามมาตรา 358 ประมวลกฎหมายอาญา เพราะจำเลยกระทำไปเพียงเพื่อยังความเดือดร้อนที่รั้วขวางประตูเข้าออกบ้านจำเลยไม่ได้ ให้สิ้นไปเท่านั้นพิพากษายืน

Share