คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2874/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

แม้จำเลยที่ 2 รู้ว่า พ. ขายทรัพย์พิพาทให้โจทก์แล้ว แต่เมื่อมีเหตุผลให้จำเลยเชื่อโดยสุจริตว่า พ. สมคบกับโจทก์ฉ้อฉลจำเลยการที่จำเลยนำยึดทรัพย์พิพาทในการบังคับคดีจึงเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริตมิได้มีเจตนากลั่นแกล้งให้โจทก์ได้รับความเสียหายไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 1,000 บาท จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ส่วนปัญหาว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ หากว่าเป็นการละเมิดโจทก์เสียหายเท่าใดนั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ทรัพย์พิพาทกับทรัพย์รายอื่น ๆ ดังปรากฏรายละเอียดตามภาพถ่ายหนังสือสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย จ.2 ซึ่งอยู่ร่วมกันที่โรงงานเลขที่ 228 ซอยวัดม่วง (หลักสอง) ถนนเพชรเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เดิมเป็นของนายพิพัฒน์และนายพิพัฒน์ก็เคยซื้อเครื่องกลึงจากจำเลยที่ 1 แล้วไม่ชำระราคาให้เสร็จสิ้นจนกระทั่งจำเลยที่ 1 ต้องฟ้องนายพิพัฒน์ และนำยึดทรัพย์พิพาทไว้ก่อนพิพากษาดังกล่าวมาข้างต้นแล้ว ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาให้นายพิพัฒน์ชำระเงินแก่จำเลยที่ 1เป็นเงินหกหมื่นบาทเศษ และคดีถึงที่สุดแล้ว ที่โจทก์ว่าก่อนที่จะยึดทรัพย์พิพาท จำเลยที่ 2 ทราบว่าโจทก์ซื้อเครื่องกลึงและกิจการจากนายพิพัฒน์ ได้ขอให้โจทก์ชำระเงินตามเช็คที่นายพิพัฒน์สั่งจ่ายชำระค่าเครื่องกลึงให้จำเลยที่ 2 แทนนายพิพัฒน์ โจทก์ให้จำเลยที่ 2 ไปเรียกร้องเอาจากนายพิพัฒน์เอง จำเลยที่ 2 บอกว่าจะฟ้องยึดเอาเครื่องกลึงคืน และโจทก์ได้โต้แย้งขณะมีการยึดทรัพย์ว่าทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ แต่จำเลยที่ 2 ยืนยันให้เจ้าพนักงานกรมบังคับคดียึดไปนั้นไม่ปรากฏเหตุผลจากคำเบิกความของโจทก์ว่า จำเลยที่ 2 ทราบได้อย่างไรว่าโจทก์ซื้อเครื่องกลึงและกิจการจากนายพิพัฒน์ เพราะโจทก์ไม่ได้แสดงหนังสือสัญญาซื้อขายเครื่องกลึงและกิจการตามภาพถ่ายเอกสารหมาย จ.2 ให้จำเลยที่ 2 ตรวจดูขณะที่จำเลยที่ 2 ไปพูดกับโจทก์เรื่องหนี้สินของนายพิพัฒน์และถึงแม้จะฟังว่าจำเลยที่ 2 รู้ว่านายพิพัฒน์ขายทรัพย์สินพิพาทให้โจทก์แล้วแค่รูปคดีก็มีเหตุให้จำเลยที่ 2 เชื่อโดยสุจริตว่านายพิพัฒน์สมคบกันฉ้อฉลจำเลยดังจะเห็นได้จากการที่จำเลยต่อสู้คดีในชั้นร้องขัดทรัพย์ตลอดมา ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยทั้งสองนำยึดทรัพย์พิพาท เป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริต มิได้มีเจตนากลั่นแกล้งให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์”

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share