คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2870/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้จำเลยกับผู้เสียหายจะเป็นญาติพี่น้องกันสาเหตุแห่งการทำร้ายเกิดจากจำเลยโกรธที่ผู้เสียหายว่ากล่าวตักเตือนให้จำเลยเลิกดื่มสุราจำเลยได้ลอบเข้าไปแทงผู้เสียหายขณะที่ผู้เสียหายนอนหลับจำเลยเลือกแทงที่ท้องของผู้เสียหายอย่างแรงบาดแผลลึกถึง4นิ้วทะลุลำไส้เล็กตัดเส้นโลหิตใหญ่ฉีกขาดถึงแม้จำเลยจะมีเจตนาเพียงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแต่จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ย่อมถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา59วรรคสองและการที่จำเลยไม่แทงซ้ำอีกทั้งๆที่มีโอกาสจะทำได้ก็ไม่ทำให้ความผิดของจำเลยเปลี่ยนแปลงไปเพราะเจตนาโดยเล็งเห็นผลนั้นมุ่งถึงลักษณะแห่งการกระทำและผลของการกระทำที่อาจเกิดขึ้นเป็นหลักมิได้มุ่งถึงเจตนาของผู้กระทำเป็นหลัก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288, 80, 33 และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การว่ากระทำความผิดโดยบันดาลโทสะ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน ริบของกลาง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติโดยคู่ความมิได้ฎีกาโต้แย้งว่า ตามวันเวลาและสถานที่ตามฟ้องจำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมยาว 1 ฟุต เฉพาะตัวมีดยาว 8 นิ้วแทงบริเวณหน้าท้องของผู้เสียหายขณะที่ผู้เสียหายนอนหลับอยู่ที่เตียงผ้าใบใต้ถุนบ้านหนึ่งที ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่หน้าท้องยาว 4 เซนติเมตรลึกประมาณ 4 นิ้ว ทะลุลำไส้เล็กและตัดเส้นโลหิตใหญ่ฉีกขาด แพทย์ลงความเห็นว่าถ้าไม่ได้รับการผ่าตัดอย่างรีบด่วนอาจทำให้ถึงตายได้ ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายหรือไม่ เห็นว่า ถึงแม้จำเลยกับผู้เสียหายจะเป็นญาติพี่น้องกัน สาเหตุแห่งการทำร้ายเกิดจากจำเลยโกรธที่ผู้เสียหายว่ากล่าวตักเตือนให้จำเลยเลิกดื่มสุราเพราะดื่มติดต่อกันมาสองวันแล้ว และด้วยความเมาสุราด้วย จำเลยได้ลอบเข้าไปแทงผู้เสียหายขณะที่ผู้เสียหายนอนหลับอยู่ที่เตียงผ้าใบใต้ถุนบ้าน จำเลยเลือกแทงที่ท้องของผู้เสียหายอย่างแรง บาดแผลลึกถึง 4 นิ้วทะลุลำไส้เล็กตัดเส้นโลหิตใหญ่ฉีกขาด นายแพทย์ผู้ตรวจบาดแผลเบิกความว่า ผู้เสียหายมีเลือดตกในช่องท้องประมาณ 2 ลิตร หากนำผู้เสียหายส่งโรงพยาบาลไม่ทันท่วงทีผู้เสียหายอาจเสียชีวิตภายใน 1 ชั่วโมง จำเลยใช้มีดขนาดใหญ่มีความยาวและแหลมคมแทงที่ท้องอันเป็นอวัยวะสำคัญของผู้เสียหายถึงแม้ว่าจำเลยจะมีเจตนาเพียงทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย แต่จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ย่อมถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 วรรคสอง การที่จำเลยไม่แทงซ้ำอีกทั้ง ๆ ที่มีโอกาสจะทำได้ ก็ไม่ทำให้ความผิดของจำเลยเปลี่ยนแปลงไป เพราะเจตนาโดยเล็งเห็นผลนั้นมุ่งถึงลักษณะแห่งการกระทำและผลของการกระทำที่อาจเกิดขึ้นเป็นหลัก มิได้มุ่งถึงเจตนาของผู้กระทำเป็นหลัก เช่น ใช้อาวุธปืนยิงนกที่จับอยู่ขอนไม้ใกล้ ๆ กับที่มีคนนั่งอยู่ ผู้ยิงย่อมเล็งเห็นผลว่ากระสุนปืนอาจพลาดไปถูกคนได้ ซึ่งหากกระสุนปืนพลาดไปถูกคนตาย ผู้ยิงย่อมมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาทั้ง ๆ ที่ไม่มีเจตนาจะยิงคนเลยกรณีของจำเลยก็เช่นกัน ซึ่งตามข้อเท็จจริงก็ไม่มีเหตุถึงกับจะต้องฆ่ากัน เพราะเป็นญาติกัน ผู้เสียหายก็ว่ากล่าวตักเตือนด้วยความหวังดี มิได้ทะเลาะวิวาทกัน แต่การที่จำเลยใช้มีดมีความยาวขนาดใหญ่และแหลมคมแทงที่ท้องอันเป็นอวัยวะสำคัญของผู้เสียหายอย่างแรงจนทะลุลำไส้เช่นนี้อาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ เมื่อผู้เสียหายไม่ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าและที่จำเลยฎีกาว่า กระทำเพราะบันดาลโทสะนั้นเห็นว่า การกระทำโดยบันดาลโทสะต้องเกิดจากการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม และต้องกระทำต่อผู้ที่ข่มเหงในขณะนั้น ผู้เสียหายเพียงแต่ว่ากล่าวตักเตือนแม้จะด่าว่าจำเลยบ้าง ก็ไม่ใช่เป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม อีกทั้งผู้เสียหายก็ได้เลิกด่าและหนีไปนอนจนหลับแล้ว จำเลยลอบเข้าไปแทงขณะที่ผู้เสียหายนอนหลับจะอ้างเหตุบันดาลโทสะหาได้ไม่ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share