คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2864/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ทนายความย่อมมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนจำเลยได้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 การที่ศาลชั้นต้นออกหมายนัดโจทก์จำเลยมาฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นกระบวนพิจารณาตามมาตรา 1 (7) และเพื่อประโยชน์แห่งการดำเนินกระบวนพิจารณาดังกล่าว ทนายจำเลยย่อมอยู่ในฐานะเป็นจำเลยตามมาตรา 1 (11) ฉะนั้นเมื่อทนายจำเลยรับหมายนัดของศาลแล้วก็ถือเสมือนหนึ่งว่าจำเลยรับเช่นกันจำเลยจะอ้างว่าไม่ทราบวันนัดเพราะจำเลยกับทนายความมิใช่บุคคลคนเดียวกันหาได้ไม่
การขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 นั้น กฎหมายให้กระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลาตามที่ศาลกำหนด เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย จำเลยมีคำขอเมื่อระยะเวลาตามที่ศาลกำหนดได้ล่วงพ้นไปแล้ว และไม่ปรากฏพฤติการณ์พิเศษและเหตุสุดวิสัย จึงขยายระยะเวลาให้จำเลยไม่ได้

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินของโจทก์ จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน ๑๕ วัน แต่การนัดฟังคำสั่งของศาลอุทธรณ์นั้น ศาลชั้นต้นออกหมายไปยังทนายโจทก์และทนายจำเลย ถึงวันนัดฝ่ายจำเลยไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ไปโดยถือว่าจำเลยทราบคำสั่งแล้ว ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดเวลาที่ให้นำค่าธรรมเนียมมาชำระ จำเลยยื่นคำแถลงว่าจำเลยป่วยยังไม่ทราบคำสั่ง หากศาลมีคำสั่งอย่างไรก็ขอให้ขยายระยะเวลาให้จำเลยด้วย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาฟังคำสั่ง ทั้งการขอขยายระยะเวลาก็ล่วงพ้นกำหนดและมิได้ทำเป็นคำร้อง ไม่อาจสั่งอนุญาตตามขอได้
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ทนายความย่อมมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนจำเลยได้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๖๒ การที่ศาลชั้นต้นออกหมายนัดโจทก์จำเลยมาฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นกระบวนพิจารณาตามมาตรา ๑ (๗) และเพื่อประโยชน์แห่งการดำเนินกระบวนพิจารณาดังกล่าวทนายจำเลยย่อมอยู่ในฐานะเป็นจำเลยตามมาตรา ๑ (๑๑) ฉะนั้นเมื่อทนายจำเลยรับหมายนัดของศาลแล้ว ก็ถือเสมือนหนึ่งว่าจำเลยรับเช่นกัน จำเลยจะอ้างว่าไม่ทราบวันนัดเพราะจำเลยกับทนายความมิใช่บุคคลเดียวกันหาได้ไม่
การขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๓ กฎหมายให้กระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลาตามที่ศาลกำหนด เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย เรื่องนี้จำเลยมีคำขอเมื่อระยะเวลาตามที่ศาลอุทธรณ์กำหนดได้ล่วงพ้นไปแล้ว และไม่ปรากฏพฤติการณ์พิเศษและเหตุสุดวิสัย จึงขยายระยะเวลาให้จำเลยไม่ได้
พิพากษายืน

Share