แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ตำรวจไปกับผู้ที่นำไปซื้อน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ โดยข้อหาว่าเอาน้ำมันอื่นมาขาย ได้เห็นการขายน้ำมันนั้นต่อหน้า ตำรวจจับได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ การกระทำผิดซึ่งหน้าไม่จำต้องเป็นความผิดที่ตำรวจไปพบโดยบังเอิญ
ย่อยาว
ตำรวจจับจำเลยในข้อหาว่าเอาน้ำมันอื่นมาขายที่ปั๊มเชลล์ ใช้เครื่องหมายการค้าของผู้อื่นให้ประชาชนหลง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ฎีกาข้อ 3(2) เห็นว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าการที่จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้รับแจ้งจากจำเลยที่ 2ว่าโจทก์มีพฤติการณ์อันน่าสงสัยว่ากระทำความผิดจึงไปที่ปั๊มน้ำมันโจทก์ โดยได้เริ่มเตรียมการไว้ก่อนแล้วว่าจะจับกุมโจทก์ เมื่อจำเลยที่ 2 ขอซื้อน้ำมัน โจทก์ขายให้ออกใบเสร็จให้แล้ว จำเลยที่ 3 ก็จับกุมโจทก์โดยเห็นว่าโจทก์กระทำผิดแล้ว มิใช่ว่าได้พบการกระทำผิดโดยบังเอิญ จึงไม่เป็นการพบว่าโจทก์กระทำผิดซึ่งหน้าอันจะจับโจทก์ได้โดยไม่มีหมายจับ เห็นว่า การกระทำผิดซึ่งหน้านั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นการกระทำผิด ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจได้พบเข้าโดยบังเอิญ ตามข้อเท็จจริงของคดีก็ได้ความว่า การกระทำของโจทก์ซึ่งจำเลยเห็นว่าเป็นความผิดนั้น จำเลยที่ 3 ก็เห็นในขณะที่โจทก์กระทำอยู่ต่อหน้า จำเลยที่ 3 จึงมีอำนาจจับโจทก์ได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ ทั้งนี้ตามนัยแห่งฎีกาที่ 298/2516”
พิพากษายืน