แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้เสียหายชี้ ตัวจำเลยได้ถูกต้อง เพราะได้พิจารณาดู รูปถ่ายหน้าตา ผิวพรรณ และความยาวของผม แล้วจึงลงความเห็นว่าจำเลยเป็นคนร้าย เช่นนี้ การชี้ ตัวมิได้มาจากการจำคนร้ายได้แม่นยำแน่นอนแต่เป็นการพินิจ พิจารณาเชื่อมโยงลักษณะของคนร้ายที่ได้เห็น กับลักษณะของจำเลยมาเปรียบเทียบกัน คำเบิกความของผู้เสียหายที่ว่าจำจำเลยได้จึงไม่มีน้ำหนักพอที่จะรับฟังว่าจำเลยได้กระทำผิด.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339,340 ตรี, 83 ขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรค 2, 340 ตรี, 83ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514ข้อ 14, 15 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 13 ให้จำคุก 20 ปี หมายเลขแดงที่717/2527 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังยุติว่า ในวันเวลาเกิดเหตุตามฟ้อง ผู้เสียหายทั้งสองถูกคนร้ายสองคนใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะร่วมกันใช้เหล็กขูดชาฟท์เป็นอาวุธขู่บังคับชิงเอาทรัพย์ต่าง ๆ ของผู้เสียหายทั้งสองตามฟ้องไป ปัญหามีว่าจำเลยได้ร่วมเป็นคนร้ายด้วยหรือไม่ นางพรทิพย์ผู้เสียหายพยานโจทก์เบิกความว่า จำเลยคือคนร้ายซึ่งเป็นผู้ขับรถจักรยานยนต์มาชิงทรัพย์ของผู้เสียหายพยานเห็นหน้าจำเลยประมาณ 2-3 วินาทีไม่ปรากฏว่านางพรทิพย์รู้จักจำเลยมาก่อน ตอนเจ้าพนักงานตำรวจให้นางพรทิพย์ดูตัวจำเลยนั้นนางพรทิพย์เบิกความว่า พยานได้พิจารณารอบคอบแล้วจึงลงความเห็นว่าจำเลยเป็นคนร้าย โดยดูรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ และความยาวของผมลักษณะเช่นนี้มิใช่เป็นลักษณะของการจำคนร้ายได้แม่นยำแน่นอน แต่เป็นเรื่องพินิจพิจารณาเชื่อมโยงลักษณะของคนร้ายที่ได้เห็น กับลักษณะของจำเลยมาเปรียบเทียบกัน แล้วลงความเห็นว่าจำเลยเป็นคนร้าย…เห็นว่า นางพรทิพย์เห็นคนร้ายในระยะเวลาอันสั้น และไม่เคยรู้จักคนร้ายมาก่อน นางพรทิพย์จึงอาจจะจำคนร้ายผิดตัวได้ โจทก์มีนางพรทิพย์เป็นประจักษ์พยานปากเดียวที่เบิกความว่าจำเลยเป็นคนร้ายและไม่มีพยานแวดล้อมอื่นสนับสนุนให้พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักพอที่จะรับฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดตามฟ้อง ข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ชัดว่าจำเลยได้ร่วมเป็นคนร้ายในคดีนี้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องนั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.