คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีแดงที่ 444/2513 โจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่พิพาทกันในคดีนี้ และศาลได้พิพากษาให้บังคับคดีไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว การที่ศาลฎีกาวินิจฉัยคดีตามที่จำเลยฎีกาขึ้นมาว่าจำเลยยังมีสิทธิอยู่ในที่พิพาทต่อไปหรือไม่นั้น จึงหมดความจำเป็นเพราะโจทก์จำเลยอาจขอบังคับคดีให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 444/2513 ได้อยู่แล้ว ศาลฎีกาให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารให้ออกไปจากบ้านและที่ดินรายพิพาท
จำเลยให้การว่าจำเลยได้ทำสัญญาขายฝากที่ดินและบ้านไว้กับโจทก์จริงตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากบ้านและที่ดินรายพิพาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาและขอทุเลาการบังคับคดี
ศาลฎีกาได้มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับคดีได้แต่ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องอ้างว่าในระหว่างศาลฎีกาอนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับคดีไว้นั้น บัดนี้อายุสัญญาการขายฝากทรัพย์พิพาทครบกำหนดแล้ว จำเลยไม่ไถ่ถอน คดีจึงยุติ ขอให้ศาลฎีกาเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีนั้นเสีย
ศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์เสียก่อน
ต่อมาโจทก์ยื่นคำแถลงต่อศาลชั้นต้นโดยจำเลยลงนามในคำแถลงด้วยว่าตามที่ศาลนัดไต่สวนคำร้องของโจทก์ที่ขอให้เพิกถอนคำสั่งเรื่องทุเลาการบังคับคดีนั้น บัดนี้โจทก์จำเลยได้ตกลงประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งแดงที่ ๔๔๔/๒๕๑๓ ของศาลจังหวัดนครสวรรค์ซึ่งจำเลยเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้ ขอให้รับไถ่ถอนการขายฝากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่พิพาทกันในคดีนี้ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว ศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนคืนศาลฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อโจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่พิพาทกันในคดีนี้ และศาลได้พิพากษาให้บังคับคดีไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้วการที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยคดีตามที่จำเลยฎีกาขึ้นมาว่า จำเลยยังมีสิทธิอยู่ในที่พิพาทต่อไปหรือไม่นั้นจึงหมดความจำเป็นเพราะโจทก์จำเลยอาจขอบังคับคดีให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๔๔๔/๒๕๑๓ ได้อยู่แล้ว จึงให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลฎีกา

Share