แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลอกลวงให้เขาส่งเรือให้ เพื่อใช้เรือนั้นเป็นพาหนะหลบหนีจากที่คุมขังเมื่อเข่าส่งเรือให้และได้ใช้เรือนั้นแล้วก็เป็นผิดฐานฉ้อโกง
ย่อยาว
ได้ความว่า จำเลยเป็นนักโทษถูกกักกันอยู่นที่นิคมฝึกอาชีพเกาะตะรุเตา ได้หลอกลวงโดยนำเอาความเท็จไปบอกแก่นักโทษชายโชติว่านายวงศ์ผู้คุมให้มอบเรือแก่จำเลยนักโทษชายโชติหลงเชื่อ จึงมอบเรือแก่จำเลยไป ๑ ลำ แล้วจำเลยใช้เรือนั้นเป็นพาหนะหลบหนีไปจากที่คุมขัง โจทก์ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๓๐๔
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำขอจำเลยมีเจตนาจะเอาไปใช้เป็นพาหนะในการหลบหนีจากที่คุมขังอย่างเดียว มิได้มีเจตนาทุจจริตที่จะเอาเป็นประโยชน์ของจำเลยโดยตรง พิพากษายกข้อหาโจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้จะใช้เป็นพาหนะเพื่อหนีจากที่คุมขังแต่อย่างเดียวก็ดีจำเลยก็ได้ใข้เป็นประโยชน์สมความประสงค์ของ จำเลยแล้วส่อให้เห็นการกระทำของจำเลยได้ว่าทุจจริตอยู่ในตัว จำเลยจึงมีผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา ๓๐๔ พิพากษา จำคุกจำเลยฐานนี้ ๓ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยได้ใช้อุบายหลอกลวงนักโทษชายโชติให้หลงเชื่อจนมอบเรือให้จำเลยไปนั้นและ จำเลยได้ใช้เรือเป็นพาหนะเพื่อหนีจากที่คุมขัง ก็เรียกได้ว่าจำเลยได้เอาไปใช้เป็นประโยชน์ตามความประสงค์ของ จำเลยจึงเป็นทุจจริตอยู่ในตัว จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์