คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงว่ามีผู้จะซื้อเพ็ชร์พลอย โจทก์หลงเชื่อมอบแหวนและสายสร้อยให้จำเลยไปขาย จำเลยเอาของนั้นไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย อ้าง ม.304 และ 314 ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมีผิดตาม ม.304 ศาลย่อมลงโทษได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงโจทก์ว่ามีผู้จะซื้อเพ็ชร์พลอย ถ้าโจทก์มีก็ให้เอาไปขาย โจทก์หลงเชื่อได้มอบแหวนและสายสร้อยให้จำเลยไป จำเลยบังอาจเอาของนั้นไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ขอให้ลงโทษตาม ม.๓๐๔ และ ๓๑๔
จำเลยต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลฎีกาตัดสินว่าความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกใกล้ชิดกันที่สุด คือเมื่อล่อลวงเอาทรัพย์ไปแล้วไม่ส่งคืนก็เป็นฉ้อโกง ถ้าเอาทรัพย์ไปโดยมิได้ล่อลวง แต่ไม่ส่งคืนก็เป็นยักยอก คดีนี้ที่ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงก็ถือเจตนาเดิมเป็นใหญ่ จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม อนึ่งคดีนี้โจทก์มิได้อ้างบทมาตราผิดจะยก ม.๑๙๒ วรรค ๔ มาใช้มิได้ โจทก์เพียงอ้าง ม.๓๑๔ เกินมาและโจทก์ก็สืบสมตามฟ้อง ที่ศาลล่างลงโทษจำเลยตาม ม.๓๐๔ ชอบแล้ว พิพากษายืน

Share