แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินในวันเดียวกันกับวันสั่งจ่ายว่าโปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย จึงฟังได้แล้วว่า ในวันที่จำเลยออกเช็ค เงินในบัญชีของจำเลยไม่มีหรือมีไม่พอจ่ายตามเช็ค คดีโจทก์จึงมีมูล มิใช่เป็นกรณีที่โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินในภายหลังจากวันที่สั่งจ่ายในเช็ค ซึ่งโจทก์จึงจะมีหน้าที่ต้องนำสืบให้เห็นว่าในวันที่สั่งจ่ายนั้น บัญชีของจำเลยไม่มีเงินหรือมีไม่พอจ่ายตามเช็ค.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า เช็คที่จำเลยสั่งจ่ายตามเอกสารหมาย จ.๒ เป็นเช็คลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๒๙ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าวในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๒๙ ตามใบคืนเช็คเอกสารหมาย จ.๓ ว่า โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย ธนาคารตามเช็คจึงปฏิเสธการจ่ายเงินในวันสั่งจ่ายหรือวันออกเช็คนั้นเอง จึงฟังได้แล้วว่า ในวันที่จำเลยออกเช็คดังกล่าว ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คแล้วว่า เงินในบัญชีของจำเลยไม่มีหรือมีไม่พอจ่ายตามเช็ค คดีโจทก์จึงมีมูล มิใช่เป็นกรณีที่โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินในภายหลังจากวันที่สั่งจ่ายในเช็ค ซึ่งโจทก์จึงจะมีหน้าที่ต้องนำสืบให้เห็นว่าในวันที่สั่งจ่ายนั้น บัญชีของจำเลยไม่มีเงินหรือมีไม่พอจ่ายตามเช็คดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
พิพากษากลับ ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป.