คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2811/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อความซึ่งบันทึกไว้ในบันทึกผลของการเจรจาข้อเรียกร้อง ล้วนแต่เป็น ความเห็นของผู้แทนของโจทก์จำเลย ไม่มีข้อความ ตอนใดที่แสดงว่าผู้แทนจำเลยตกลงหรือให้สัญญาจะจ่าย เงินโบนัสให้แก่พนักงานปีละ 2 เท่าของเงินเดือน แม้ ผู้แทนจำเลยจะเห็นด้วยกับผู้แทนโจทก์ในการจ่ายเงินโบนัส ดังกล่าว ก็เพียงเห็นด้วยในหลักการเบื้องต้นซึ่งจะต้องเสนอ จำเลยต่อไป ไม่ใช่ข้อสัญญาหรือข้อตกลงซึ่งจะใช้บังคับกันทันที โดยเฉพาะข้อความตอนท้ายของบันทึกระบุว่า’ส่วน ขั้นตอนดำเนินการในเรื่องนี้ธนาคารฯจะได้ดำเนินการต่อไป’แสดงว่าความเห็นของทั้งสองฝ่ายยังไม่ผูกพันคู่กรณี เพราะ จำเลยมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อให้ความเห็นมีผลใช้บังคับ ถือไม่ได้ว่าข้อเรียกร้องนั้นสามารถตกลงกันได้ แล้ว บันทึกดังกล่าวจึงไม่มีสภาพเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับ สภาพการจ้างซึ่งจำเลยจะต้องปฏิบัติตาม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้แจ้งข้อเรียกร้องต่อจำเลยหลายข้อรวมทั้งเรื่องกำหนดอัตราในการจ่ายเงินโบนัสแก่พนักงาน ต่อมาผู้แทนโจทก์และผู้แทนจำเลยสามารถตกลงเกี่ยวกับข้อเรียกร้องเรื่องกำหนดอัตราในการจ่ายเงินโบนัสแก่พนักงานได้ โดยจำเลยยินยอมจ่ายให้แก่พนักงานปีละ ๒ เท่าของเงินเดือนและได้ทำบันทึกเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามข้อตกลงดังกล่าวไว้ จำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างดังกล่าว ขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
จำเลยให้การว่าบันทึกการเจรจาข้อเรียกร้องตามฟ้องเป็นเพียงความเห็นของผู้แทนทั้งสองฝ่าย ยังไม่ถือเป็นข้อเรียกร้องซึ่งตกลงกันได้ ซึ่งว่าจะเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า บันทึกผลการเจรจาข้อเรียกร้องในส่วนที่เกี่ยวกับข้อเรียกร้องเรื่องกำหนดอัตราในการจ่ายเงินโบนัสแก่พนักงานซึ่งมีข้อความว่า “ผู้แทนธนาคารฯ และผู้แทนสหภาพฯ ได้ร่วมการพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า โบนัสของพนักงานควรจะได้เท่าเทียมกับรัฐวิสาหกิจอื่น ๆที่เป็นธนาคาร จึงสมควรจ่ายเงินโบนัสแก่พนักงานปีละ ๒ เท่าของเงินเดือนโดยให้จ่ายเมื่อธนาคารฯ ปิดบัญชีงบดุลสิ้นปีแล้ว ส่วนขั้นตอนดำเนินการในเรื่องนี้ธนาคารฯ จะได้ดำเนินการต่อไปฯ นั้นล้วนแต่เป็นความเห็นของผู้แทนทั้งสองฝ่าย ไม่มีข้อความตอนใดที่แสดงว่าผู้แทนจำเลยตกลงหรือให้สัญญาว่าจะจ่ายเงินโบนัสให้แก่พนักงานปีละ ๒ เท่าของเงินเดือนแม้ผู้แทนจำเลยจะเห็นด้วยกับผู้แทนโจทก์ว่าพนักงานควรจะได้เงินโบนัสปีละ ๒ เท่าของเงินเดือนก็ตามก็เพียงเห็นด้วยในหลักการเบื้องต้นซึ่งจะต้องเสนอจำเลยต่อไป ไม่ใช่เป็นข้อสัญญาหรือข้อตกลงซึ่งจะใช้บังคับกันทันที โดยเฉพาะข้อความตอนท้ายซึ่งระบุว่า “ส่วนขั้นตอนดำเนินการในเรื่องนี้ธนาคารฯ จะได้ดำเนินการต่อไป” ยิ่งแสดงให้เห็นว่า ความเห็นของผู้แทนทั้งสองฝ่ายยังไม่ผูกพันคู่กรณี เพราะจำเลยมีหน้าที่อื่น ๆ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อให้ความเห็นมีผลใช้บังคับ จึงถือไม่ได้ว่า ข้อตกลงนั้นสามารถตกลงกันได้แล้ว บันทึกดังกล่าวจึงไม่มีสภาพเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างซึ่งจำเลยจะต้องปฏิบัติตาม
พิพากษายืน

Share