คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2808/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทำสัญญาขายสินค้าให้จำเลย แล้วโจทก์ผิดสัญญาส่งมอบสินค้าให้จำเลยล่าช้ากว่ากำหนด จำเลยจึงปรับโจทก์ตามสัญญาโดยหักเงินค่าปรับไว้จากราคาสินค้า เมื่อศาลพิพากษาลดค่าปรับลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา383 วรรคแรก ให้จำเลยคืนเงินค่าปรับบางส่วนแก่โจทก์โจทก์หามีสิทธิได้ดอกเบี้ย จากเงินค่าปรับที่ได้รับคืนนั้น ไม่ เพราะการที่จำเลยหักเงินค่าปรับไว้เป็นการใช้สิทธิตามสัญญาซื้อขาย ซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบที่จำเลยจะกล่าวอ้างได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาซื้อสินค้าจากโจทก์รวม 51 รายการโจทก์ส่งมอบตามกำหนดแล้ว 28 รายการ ส่วนอีก 23 รายการ ส่งมอบหลังกำหนดตามสัญญาเพราะเหตุสุดวิสัย แต่จำเลยปรับโจทก์ตามสัญญาโดยหักเงินจากราคาสินค้าไว้ ซึ่งจำเลยไม่มีสิทธิจะปรับได้ ขอให้บังคับจำเลยคืนเงินค่าปรับพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์ส่งมอบสินค้าล่าช้าเพราะความผิดของโจทก์ไม่ใช่เพราะเหตุสุดวิสัย จำเลยมีสิทธิปรับได้ตามสัญญา ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนเบี้ยปรับบางส่วนพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฎีกาจำเลยที่ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ควรได้รับดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าปรับที่ได้รับคืนนั้น เห็นว่า การริบเบี้ยปรับที่จำเลยหักไว้จากการชำระหนี้เป็นการใช้สิทธิตามสัญญาซื้อขาย เอกสารหมาย จ.4 ข้อ 9 ซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบของจำเลยที่จะกล่าวอ้างได้ ใช่ว่าจะปราศจากมูลอันจะกล่าวอ้างเสียทีเดียว จำเลยมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์เสียอีกที่เป็นฝ่ายผิดสัญญามาแต่ต้น จึงไม่มีเหตุอันควรที่จะได้รับดอกเบี้ย

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share