คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2808/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 3 ได้นำรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุเข้าร่วมในกิจการทำไม้ของจำเลยที่ 2 มีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ควบคุมไปเมื่อจำเลยที่ 1 ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 กระทำละเมิดในทางการที่จ้างอันเป็นกิจการของจำเลยที่ 2ถือได้ว่ากระทำละเมิดในทางการที่จ้างอันเป็นกิจการของจำเลยที่ 3 ด้วย

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 62,395 บาท กับดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดด้วยส่วนจำเลยที่ 3 เป็นกรรมการผู้จัดการของจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุ และเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งส่วนบุคคลด้วยรถยนต์ โดยใช้รถยนต์บรรทุกถึง 26 คัน รวมทั้งคันเกิดเหตุด้วย ตามเอกสารหมาย จ.3 จำเลยที่ 3 ได้ต่ออายุใบอนุญาตการขนส่งตลอดมา จำเลยที่ 3 ได้นำรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุเข้าร่วมในกิจการทำไม้ของจำเลยที่ 2 ดังปรากฏตามใบเบิกทางเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งระบุอนุญาตให้นำไม้ออกจากตำบลท่าอิฐ จังหวัดอุตรดิตถ์ไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดอ่างทอง โดยใช้รถยนต์บรรทุกคันหมายเลขทะเบียน อ.ต.00663 มีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ควบคุมไป ดังนั้นเมื่อจำเลยที่ 1 ลูกจ้างกระทำละเมิดในทางการที่จ้างอันเป็นกิจการของจำเลยที่ 2 ย่อมถือได้ว่ากระทำละเมิดในทางการที่จ้างอันเป็นกิจการของจำเลยที่ 3 ด้วยจำเลยที่ 3 ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดร่วมกับจำเลยที่ 1”

พิพากษายืน

Share