คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งคำฟ้องของโจทก์ว่า ถ้า ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยไม่ได้ให้โจทก์แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 15 วัน นับแต่วันส่งไม่ได้ มิได้สั่งให้ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง แต่เจ้าพนักงานศาลกลับส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยด้วยวิธีปิดหมายซึ่งไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 76จึงต้องถือว่าศาลยังไม่ได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นตั้งแต่การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยและภายหลังแต่นั้นมาเป็นการไม่ชอบและไม่มีผลตามกฎหมาย ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่แม้จำเลยยื่นคำขอเมื่อพ้นกำหนด 6 เดือนนับแต่วันที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จและให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 400 บาท
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยยื่นคำขอเมื่อพ้นกำหนด 6 เดือนนับแต่วันที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลย ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปรากฎจากหลักฐานในสำนวนว่า ศาลชั้นต้นสั่งคำฟ้องของโจทก์ว่า ถ้าส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยไม่ได้ ให้โจทก์แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 15 วันนับแต่วันส่งไม่ได้ มิได้สั่งให้ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง แต่เจ้าพนักงานศาลกลับส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยด้วยวิธีปิดหมายจึงเป็นการไม่ชอบ ทั้งรายงานเจ้าหน้าที่ในการส่งหมายของเจ้าพนักงานศาลก็มีข้อความขัดแย้งกัน ในการส่งหมายครั้งแรก ตามรายงานลงวันที่ 4 เมษายน 2527 เจ้าพนักงานศาลรายงานว่า ได้ปิดหมายไว้ณ บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 10 บ้านโคกเพชร ตำบลไพล อำเภอปราสาทซึ่งเป็นบ้านเรือนของจำเลย แต่ในรายงานเจ้าหน้าที่ลงวันที่ 16พฤษภาคม 2527 ห่างกันเพียง 1 เดือนเศษ เจ้าพนักงานศาลผู้นำส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์รายงานว่า ได้สอบถามนายวิจิตร จันทร์ภักดีผู้ใหญ่บ้านได้ความว่าจำเลยรื้อเรือนและอพยพไปอยู่ที่อื่นหลายเดือนแล้ว จึงส่งหมายให้จำเลยไม่ได้ เมื่อการส่งหมายให้จำเลยเป็นไปโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 76จึงต้องถือว่า ศาลยังมิได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นตั้งแต่การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยและภายหลังแต่นั้นมาจึงเป็นการไม่ชอบและไม่มีผลตามกฎหมายทั้งเป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมและเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนชอบที่ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกคำร้องของจำเลย ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยให้ถูกต้องแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่”.

Share