คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่พิพาทมีโฉนด โจทก์อ้างว่าที่พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์จำเลยอ้างว่าบิดามารดาโจทก์ขายที่พิพาทให้บิดามารดาจำเลยโดยมิได้มีการแก้ทะเบียนกัน ข้อเท็จจริงรับกันว่าบิดามารดาจำเลยและจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทมา 40 ปี แล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ศาลได้สั่งแสดงตามคำขอของจำเลยแล้วเป็นหน้าที่ของฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นทายาทเดิมจะต้องนำสืบแสดงว่าฝ่ายจำเลยได้ทำนาพิพาทโดยเช่าจากฝ่ายโจทก์ดังที่โจทก์อ้าง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมที่ดินโฉนดที่ 2011 เป็นของนายรื่น นางเที่ยงบิดามารดาโจทก์ ได้ให้นายเจิม นางขวัญบิดามารดาจำเลยเช่า เมื่อประมาณ 10 ปีเศษมานี้ บิดามารดาโจทก์ถึงแก่กรรม โจทก์ นางผิว และนางชื้นซึ่งเป็นบุตรรับมรดกที่พิพาท แต่ยังไม่ได้จัดการโอนขอรับมรดก โจทก์กับพวกได้เข้าครอบครองที่พิพาทด้วยความสงบเปิดเผยเจตนาเป็นเจ้าของ ได้ให้นายเจิมนางขวัญเช่าทำ จำเลยบุกรุกเข้าทำนาพิพาทโจทก์กับพวกไปขอรับมรดกที่รายพิพาทต่อพนักงานที่ดินจังหวัด พนักงานที่ดินจังหวัดแจ้งว่า ศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่รายพิพาทโดยการครอบครอง จึงขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์และพิพากษาว่าคำสั่งของศาลคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 182/2505 ของศาลจังหวัดไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย

จำเลยให้การว่า เมื่อประมาณ 40 ปีมานี้แล้ว นายรื่น นางเที่ยงได้ขายที่พิพาทให้บิดามารดาจำเลย บิดามารดาจำเลยยกที่รายพิพาทให้จำเลย จำเลยครอบครองมาโดยสุจริต เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมา25 ปีแล้ว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยครอบครองที่รายพิพาทอย่างเป็นเจ้าของมาเป็นเวลา 20 ปีเศษ ที่รายพิพาทจึงเป็นของจำเลย ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่โจทก์ฎีกาว่าที่รายพิพาทเป็นมรดกได้แก่โจทก์ จำเลยอ้างว่านายรื่น นางเที่ยงขายที่พิพาทให้บิดามารดาจำเลยโดยมิได้มีการแก้ทะเบียนกัน ข้อสันนิษฐานของกฎหมายในเบื้องต้นมีว่า ที่ดินเป็นของโจทก์ จำเลยมีหน้าที่นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าวนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงที่คู่ความรับกันฟังได้ว่าบิดามารดาจำเลยได้ครอบครองที่รายพิพาทมา 40 ปีแล้ว จำเลยเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย ศาลได้สั่งแสดงตามคำขอของจำเลยแล้ว เป็นหน้าที่ของโจทก์ซึ่งเป็นทายาทเจ้าของเดิมจะต้องนำสืบแสดงว่าฝ่ายจำเลยได้ทำนาพิพาทโดยเช่าจากฝ่ายโจทก์ดังที่โจทก์อ้าง

ส่วนข้อเท็จจริงนั้น ศาลฎีกาฟังว่าฝ่ายโจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่าฝ่ายจำเลยได้ทำนาพิพาทโดยเช่าจากฝ่ายโจทก์

พิพากษายืน

Share