คำสั่งคำร้องที่ 1017/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลอุทธรณ์ได้ แก้โทษของจำเลย ซึ่งเป็นเพียงแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 ฎีกาของจำเลยล้วนเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ไม่รับฎีกา จำเลย จำเลยเห็นว่า กรณีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงนั้นเฉพาะกรณีที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเท่านั้น แต่คดีนี้ศาลอุทธรณ์มิได้พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยจึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยด้วย หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4,7,15,67,102 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 2(พ.ศ. 2522) เรื่องระบุชื่อและ ประเภทยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 ลงวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2522 ข้อ 1(1) จำคุก 6 ปีจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ลดโทษให้1 ใน 3 คงจำคุก 4 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุก 3 ปี 6 เดือนลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 58) จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 62)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4,7,15,67,102 จำคุก 6 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำคุก 3 ปี 6 เดือน ลดโทษ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี 4 เดือน เป็นการแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน ห้าปี จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้น สั่งไม่รับฎีกาของจำเลยนั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share