แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พฤตติการณ์ที่ถือว่า สมคบกันกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์เข้ากอดคอเจ้าทรัพย์แล้วแย่งสร้อยคอนั้นนับว่าเป็นกิริยาทำร้ายร่างกายด้วย
ย่อยาว
ในวันเกิดเหตุผู้เสียหายโดยสารเรือเมล์ไปจังหวัดสระบุรี พอเรือออกจากท่าแล้วนายท้ายลุกขึ้นไปรับประทานอาหาร ฮ.จำเลยก็เข้าถือท้ายแทน แล้วจำเลยทั้ง ๓ ก็พูดจาซุบซิบกันแล้ว ม. จำเลยก็เข้ามากอดแย่งสายสร้อยคอที่ผู้เสียหายแล้วแย่งสายสร้อยไว้ได้ ถือไว้ในมือ น. จำเลยได้ช่วย ม.แย่งสายสร้อยไปจากมือผู้เสียหายได้ เล็บมือ น.จำเลยบาดนิ้วมือผู้เสียหายโลหิตซับ ฮ.จำเลยไม่ได้ช่วยในการแย่งนี้แต่เบนหัวเรือเข้าฝั่ง แล้ว ม.กับ น. จำเลยโดดขึ้นฝั่งพาสายสร้อยของผู้เสียหายหนีไป ม.จำเลยมีอาวุธมีดพกติดตัวมา ในเวลาเกิดเหตุด้วย ๑ เล่ม
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลล่างทั้ง ๒ ว่าพฤตติการณ์ของ ฮ.จำเลยเป็นการเพียงพอที่จะถือว่าได้สมคบกับ น. ม. จำเลยโดยแบ่งหน้าที่ช่วยในการชิงทรัพย์รายนี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการเช่นเดียวกัน จึงพิพากษาลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๑-๖๓