คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 8 วรรค 2 บังคับไว้ให้จ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมผู้กระทำผิดในกรณีที่ไม่มีผู้นำจับเพียงร้อยละยี่สิบของราคาของกลางหรือค่าปรับ การที่ศาลชั้นต้นให้จำเลยจ่ายเงินรางวัลร้อยละยี่สิบห้าของค่าปรับนั้น จึงไม่ถูกต้อง แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกาในข้อนี้ขึ้นมาศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยแก้ให้ถูกต้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง จำเลยรับสารภาพฟังได้ว่าจำเลยช่วยกันเคลื่อนย้ายน้ำตาลทรายขาวโดยไม่ได้รับอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 2,000 บาทลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 3 เดือน ปรับคนละ 1,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี และให้จำเลยจ่ายเงินรางวัลร้อยละยี่สิบห้าของค่าปรับ

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานหนักและมิให้รอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่รอการลงโทษจำคุกให้ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษโดยได้รับอนุญาตให้ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพฤติการณ์ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะรอการลงโทษให้แก่จำเลย แต่ที่ศาลชั้นต้นให้จำเลยจ่ายเงินรางวัลร้อยละยี่สิบห้าของค่าปรับนั้น โดยที่มาตรา 8 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ. 2489 บังคับไว้ให้จ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมผู้กระทำความผิดในกรณีที่ไม่มีผู้นำจับเพียงร้อยละยี่สิบของราคาของกลางหรือค่าปรับ ศาลชั้นต้นสั่งจ่ายไม่ถูกต้อง

พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยจ่ายเงินรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมร้อยละยี่สิบของค่าปรับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์

Share