แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อายุความในคดีอาญานั้นเมื่อเริ่มนับแล้วอายุความก็เดินเรื่อยไป เว้นแต่กรณีที่ได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลแล้ว ผู้กระทำความผิดหลบหนีหรือวิกลจริตและศาลสั่งงดการพิจารณาไว้ จึงจะเริ่มนับอายุความใหม่แต่วันหลบหนีหรือวันที่ศาลสั่งงดการพิจารณา ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 วรรคสอง
จำเลยออกเช็คให้โจทก์เมื่อเดือนธันวาคม 2517 โจทก์นำเช็คไปรับเงินธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยได้โทรศัพท์ให้โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีอีกครั้ง โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีของโจทก์ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2518 ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ฟ้องคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2518 กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 วรรคสอง จึงเริ่มนับอายุความใหม่ไม่ได้ โจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นเวลาเกินกว่า 3 เดือน นับแต่วันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก คดีจึงขาดอายุความ และการที่จำเลยแจ้งให้โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีอีกครั้งหนึ่งก็มิใช่เป็นการออกเช็ค จะปรับว่าจำเลยกระทำผิดครั้งใหม่ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้โจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์ได้นำเข้าบัญชีเงินฝากของโจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ทั้งนี้ โดยจำเลยออกเช็คด้วยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค โดยรู้อยู่แล้วว่าขณะออกมีเงินอยู่ในบัญชีไม่พอจ่ายตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้อง
จำเลยแถลงรับว่า จำเลยออกเช็คให้โจทก์ โจทก์รับเงินไม่ได้เพราะเงินในบัญชีของจำเลยไม่พอจ่าย แต่โจทก์นำเช็คไปรับเงินจากธนาคารสองครั้ง ครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๑๗ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยให้โจทก์ติดต่อผู้สั่งจ่าย ต่อมาจำเลยได้โทรศัพท์ให้โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีอีกครั้ง โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีของโจทก์เป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๑๘ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินด้วยเหตุผลเช่นเดียวกับครั้งแรก โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๑๘ เป็นเวลาเกินกว่า ๓ เดือน นับแต่วันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก
โจทก์จำเลยไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คดีขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยแจ้งให้โจทก์นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีอีกครั้งหลังจากธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งที่สอง ข้อนี้เห็นว่าอายุความในคดีอาญานั้นเมื่อเริ่มนับแล้วอายุความก็เดินเรื่อยไป เว้นแต่กรณีที่ได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำผิดมายังศาลแล้ว ผู้กระทำผิดหลบหนีหรือวิกลจริต และศาลสั่งงดการพิจารณาไว้ จึงจะเริ่มนับอายุความใหม่แต่วันหลบหนีหรือวันที่ศาลสั่งงดการพิจารณา ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๕ วรรคสอง ข้อเท็จจริงคดีนี้ไม่ต้องด้วยมาตรา ๙๕ วรรคสอง จึงเริ่มนับอายุความใหม่ไม่ได้ โจทก์ฎีกาอีกข้อหนึ่งว่า การที่จำเลยแจ้งให้โจทก์นำเช็คพิพาทเข้าบัญชีอีกครั้งหนึ่งเป็นการกระทำความผิดขึ้นใหม่ จึงต้องนับอายุความใหม่ ข้อนี้เห็นว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวมิใช่เป็นการออกเช็ค จะปรับว่าจำเลยกระทำผิดครั้งใหม่ไม่ได้
พิพากษายืน.