แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มูลค่าหุ้นที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้านมีหนังสือยืนยันให้ผู้ร้องชำระมีราคาเพียง75,000บาทจึงต้องถือว่าคดีนี้มีทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาเพียง75,000บาทต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา248ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา153
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งจำหน่ายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านมีอำนาจเรียกให้ผู้ร้องนำเงินค่าหุ้นจำนวน 75,000 บาท ที่ค้างชำระมาชำระต่อผู้คัดค้านได้ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ให้ยก คำร้องขอ งผู้ร้อง
ผู้ร้อง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
ผู้ร้อง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องได้โอนหุ้นให้แก่บุคคลภายนอกแล้ว จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าหุ้นอีกและกรรมการบริษัทจำเลยได้ทวงถามค่าหุ้นเมื่อปี 2524นานเกิน 10 ปีแล้ว คดีจึงขาดอายุความ เห็นว่า มูลค่าหุ้นผู้คัดค้านมีหนังสือยืนยันให้ผู้ร้องชำระมีราคาเพียง 75,000 บาทจึงต้องถือว่าคดีนี้มีทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาเพียง 75,000 บาทต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153ฎีกาของผู้ร้องเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาผู้ร้อง คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้แก่ผู้ร้องค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ