คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2527

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้ประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่ดังโจทก์ฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่ราชการ ด้วยความประมาทเลินเล่อ เพราะมิได้ปฏิบัติตามระเบียบการเบิกจ่ายเงิน จากคลัง พ.ศ. 2520 เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ เป็นการอุทธรณ์ว่าจำเลยได้กระทำอย่างไรที่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ หาใช่อุทธรณ์ในเรื่องการ ตีความกฎหมายหรือปรับบทกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำของจำเลย แต่อย่างใดไม่ จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยได้ใช้ความระมัดระวังพอสมควรในการปฏิบัติหน้าที่ การที่ลายมือชื่อผู้เบิกเงินในฎีกาปลอม จำเลยไม่อาจรู้ได้เพราะเจ้าหน้าที่ผู้รับฎีกาเป็นผู้มีหน้าที่ตรวจสอบรับรองความถูกต้องของลายมือชื่อมาแล้ว เมื่อจำเลยมิได้ประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายอันเกิดขึ้นเพราะความประมาทเลินเล่อของบุคคลอื่น พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์ โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีคงมีปัญหาตามข้อฎีกาของโจทก์ว่าอุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายหรือในปัญหาข้อเท็จจริง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยมิได้ประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่ดังโจทก์ฟ้อง ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความประมาทเลินเล่อเพราะมิได้ปฏิบัติตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง พ.ศ. 2520 ข้อ 42, 46, 47 ตามเอกสารหมาย จ.7 เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์นั้น เป็นการอุทธรณ์ว่าจำเลยได้กระทำอย่างไรที่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ หาใช่อุทธรณ์ในเรื่องการตีความกฎหมายหรือปรับบทกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยแต่อย่างใดไม่อุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share