แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยอนุมัติให้จ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงให้โจทก์ตามจำนวนวันที่ออกไปปฏิบัติงานที่ต่างจังหวัด เป็นการให้เงินตอบแทนการทำงานในช่วงเวลาที่ทำงานในต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นวันทำงานปกติหรือวันหยุดประจำสัปดาห์มีลักษณะเช่นเดียวกับเงินเดือน และจำเลยก็มิได้มีคำสั่งหรือระบุเจาะจงว่า โจทก์จะต้องทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ แต่เป็นดุลพินิจของโจทก์ที่จะเลือกปฏิบัติงานในวันใดเวลาใดก็ได้ในระหว่างช่วงเวลานั้น จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยสั่งให้โจทก์ทำงานในวันหยุด โจทก์ไม่มีสิทธิได้ค่าทำงานในวันหยุดในช่วงเวลาดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยตำแหน่งผู้แทนฝ่ายขายต่างจังหวัด จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยหาว่าโจทก์ขายสินค้าไม่ได้ตามเป้าหมายของจำเลย จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้โดยไม่นำค่าเบี้ยเลี้ยงมารวมเป็นฐานคำนวณ ระหว่างที่ปฏิบัติงานต่างจังหวัด จำเลยให้โจทก์ทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ด้วย จึงขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยส่วนที่ขาด ค่าทำงานในวันหยุดพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ลาออกเองและทุจริตต่อหน้าที่ จำเลยจ่ายค่าเดินทางให้โจทก์เป็นค่ารถ ค่าโรงแรม และค่าอาหารไม่ใช่ค่าตอบแทนในการทำงานโดยจำเลยสำรองจ่ายให้โจทก์ก่อน เมื่อโจทก์ต้องการเบิกจะต้องทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายจริงมาเบิกหักทอนเงินสำรอง เงินส่วนนี้จึงไม่ต้องนำมารวมคำนวณค่าชดเชย จำเลยไม่เคยสั่งให้โจทก์ทำงานในวันหยุด โจทก์มีอิสระในการทำงานในต่างจังหวัด จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าทำงานในวันหยุด
ศาลแรงงานกลางพิพากษา ให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ย ค่าทำงานในวันหยุดโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับให้ยกคำขอส่วนนี้
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การที่โจทก์ออกไปปฏิบัติงานที่ต่างจังหวัดและจำเลยได้อนุมัติให้จ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงให้โจทก์ตามจำนวนวันที่ออกไปปฏิบัติงานนั้น เป็นการให้เงินตอบแทนการทำงานในช่วงเวลาที่ทำงานในต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นวันทำงานปกติหรือวันหยุดประจำสัปดาห์ มีลักษณะเช่นเดียวกับเงินเดือน และจำเลยก็มิได้มีคำสั่งหรือระบุเจาะจงว่าโจทก์จะต้องทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ แต่เป็นดุลพินิจของโจทก์ที่จะเลือกปฏิบัติงานในวันใดเวลาใดก็ได้ในระหว่างช่วงเวลาที่ออกไปปฏิบัติงานที่ต่างจังหวัด จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยสั่งให้โจทก์ทำงานในวันหยุดในช่วงเวลาดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้ค่าทำงานในวันหยุด
พิพากษายืน