คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2760/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์รับสมอ้างเป็นผู้ทรงเช็คผู้ถือและนำเช็คมาฟ้องเรียก เงินจากจำเลย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยสุจริต โจทก์ย่อมไม่มีมูลหนี้ที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คนั้นแก่ตนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คผู้ถือซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อเช็คถึงกำหนดชำระเงิน โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า จำเลยออกเช็คพิพาทเป็นประกันหนี้กองกลางระหว่างพี่น้องของนายดำริซึ่งเป็นอดีตสามีของจำเลย และมีคดีพิพาทกับจำเลยในศาล นายดำริแพ้คดี นายศุภชัยทนายความของนายดำริสมคบกันฉ้อฉลให้โจทก์รับสมอ้างเป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้ฟ้องจำเลย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบ ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่ายในเช็ค วันที่สั่งจ่ายตามที่ปรากฏในเช็คไม่ใช่วันที่สั่งจ่ายถูกต้องแท้จริง วันที่สั่งจ่ายในเช็คถูกลงโดยผู้ทรงที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่สุจริต เป็นการลงวันที่สั่งจ่ายภายหลังจากเช็คขาดอายุความแล้ว ไม่ผูกพันจำเลย คดีขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คพิพาทเชื่อไม่ได้ว่าโจทก์ได้นำเงินสดจำนวน 90,000 บาท ไปแลกเช็คพิพาทจากนายดำรัสรูปเรื่องน่าจะเป็นว่านายศุภชัยเอาเช็คพิพาทมาให้โจทก์รับสมอ้างว่าเป็นผู้ทรงฟ้องเรียกเงินจากจำเลย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริต โจทก์ย่อมไม่มีมูลหนี้ที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทแก่ตนได้แต่อย่างใด

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share