แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ศาลพิพากษาให้จำเลยคืนทรัพย์คือมันสำปะหลังให้โจทก์ร่วมหมายถึงมันสำปะหลังที่จำเลยลักเอาไปจากโจทก์ร่วมเท่านั้น แม้โดยสภาพมันสำปะหลังจะเป็นสังกมทรัพย์จำเลยก็ไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับโจทก์ร่วมไปขุดมันสำปะหลังจากไร่ของจำเลย เมื่อจำเลยไม่คืนมันสำปะหลังที่ลักเอาไปให้โจทก์ร่วมตามคำบังคับ โจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิขอให้ศาลออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยมาขายทอดตลาดชำระหนี้ให้โจทก์ร่วมได้
ย่อยาว
คดีสองสำนวนนี้ศาลฎีกาพิพากษาให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ วรรคแรก และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๙,๒๐๐ บาท แก่โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมขอให้ศาลออกคำบังคับ จำเลยทั้งสองทราบคำบังคับแล้วไม่ปฏิบัติตามโจทก์ร่วมจึงขอหมายบังคับคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดพร้อม
ในวันนัดพร้อม จำเลยทั้งสองแถลงว่าจะชำระหนี้ตามคำพิพากษาโดยให้โจทก์ร่วมขุดมันสำปะหลังจากไร่ของจำเลยเนื้อที่ ๓ ไร่ เท่ากันแทน โจทก์ร่วมไม่ยินยอมจำเลยทั้งสองแถลงไม่ยอมชำระหนี้เป็นเงิน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์จำเลยมาขายทอดตลาดชำระหนี้ให้โจทก์ร่วมตามขอ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า การที่ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยทั้งสองคืนทรัพย์คือมันสำปะหลังให้โจทก์ร่วมนั้น หมายถึงทรัพย์หรือมันสำปะหลังที่จำเลยทั้งสองลักเอาไปจากโจทก์ร่วมเท่านั้น แม้โดยสภามันสำปะหลังจะเป็นสังกมทรัพย์ จำเลยทั้งสองก็ไม่มีสิทธิจะขอให้ศาลบังคับให้โจทก์ร่วมไปขุดเอามันสำปะหลังในไร่ของจำเลยเนื้อที่ ๓ ไร่ เท่ากันแทนการที่จำเลยจะต้องคืนทรัพย์คือมันสำปะหลังที่ลักเอาไปให้โจทก์ร่วมซึ่งเป็นการนอกเหนือคำพิพากษาได้ เมื่อจำเลยทั้งสองไม่คืนมันสำปะหลังที่ลักเอาไปให้โจทก์ร่วมตามคำบังคับโจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิขอให้ศาลออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยทั้งสองมาขายทอดตลาดชำระหนี้ให้โจทก์ร่วมได้
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกาแทนโจทก์ร่วม ๒๕๐ บาทด้วย