แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 มิได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินนั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ต้องแจ้งวันขายทอดตลาดให้จำเลยที่ 1 ทราบก็ได้
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยทั้งสามชำระเงินแก่โจทก์ จำเลยทั้งสามผิดนัด ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดี โจทก์นำเจ้าพนักงาน-บังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ ๒ ออกขายทอดตลาด และในการขายทอดตลาดเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๓๒ เจ้าพนักงานบังคับคดีตกลงขายแก่นายสมศักดิ์ แหล่งเลิศทรัพย์ ผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน ๒๖๑,๐๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้แจ้งวันขายทอดตลาดให้จำเลยที่ ๑ ทราบ การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด
ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยที่ ๑ ทราบวันนัดขายทอดตลาดโดยชอบแล้วขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งบัญญัติไว้ในมาตรา ๓๐๖กำหนดให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหน้าที่แจ้งคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึด และวันขายทอดตลาดแก่บรรดาบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดดังกล่าวเท่านั้นคดีนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ ๒ มิได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ จึงไม่ใช่บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ต้องแจ้งให้จำเลยที่ ๑ ทราบก็ได้ จำเลยที่ ๑ ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโดยอาศัยเหตุดังกล่าวข้างต้น
พิพากษายืน.