คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2748/2525

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

อัยการโจทก์นำผู้ต้องหาไปฟ้องแล้ว แต่ศาลไม่ประทับฟ้องเนื่องจากโจทก์ไม่ลงชื่อในคำฟ้อง ในช่วงนี้ผู้ต้องหาหลบหนีไปดังนี้ จำเลยได้ปฏิบัติการชำระหนี้ถูกต้องตามสัญญาประกัน โดยส่งตัวผู้ต้องหาตามกำหนดนัดแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากหนี้อันพึงจะต้องชำระ จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 113 เป็น บทบัญญัติถึงขั้นตอนเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการทำสัญญาประกัน แต่ละฝ่ายเพื่อมิให้ก้าวก่ายหรือซ้ำซ้อนกันเท่านั้น มิใช่เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับความรับผิดของนายประกันซึ่งจะต้องพิจารณาตามกฎหมายแพ่ง

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้ได้ความตามฟ้องโจทก์ว่าจำเลยซึ่งเป็นนายประกันได้นำตัวนายมี กึกก้อง ผู้ต้องหาซึ่งจำเลยรับประกันมาส่งให้โจทก์ตามกำหนดนัด และโจทก์ได้นำตัวนายมี กึกก้อง ไปฟ้องยังศาลแล้วแต่ศาลสั่งไม่ประทับฟ้องโจทก์ เนื่องจากโจทก์ไม่ลงชื่อในคำฟ้องในช่วงนี้เองนายมี กึกก้อง ได้หลบหนีไป ศาลฎีกาเห็นว่าขณะนั้นนายมี กึกก้อง อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของโจทก์ มิใช่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลยซึ่งเป็นนายประกัน จะให้จำเลยรับผิดได้ไม่ จำเลยได้ปฏิบัติการชำระหนี้ถูกต้องตามสัญญาประกันโดยส่งตัวผู้ต้องหาให้โจทก์ตามกำหนดนัดแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากหนี้อันพึงจะต้องชำระ จำเลยไม่ต้องรับผิดตามที่โจทก์ฟ้อง เมื่อผู้ต้องหาหลบหนีไปในระหว่างความดูแลรับผิดชอบของโจทก์เช่นนี้ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะจัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหามาเอง จำเลยไม่มีหน้าที่ที่จะปฏิบัติตามสัญญาอีก

ที่โจทก์ฎีกาว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 113บัญญัติให้สัญญาประกันใช้ได้ตลอดไปจนถึงศาลประทับฟ้องนั้น ความในมาตรา 113 มีว่า “เมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการสั่งปล่อยชั่วคราว สัญญาประกันนั้นใช้ได้ระหว่างสอบสวนหรือจนกว่าผู้ต้องหาถูกศาลสั่งขังระหว่างสอบสวนหรือตลอดไปจนถึงศาลประทับฟ้องเท่านั้น” ศาลฎีกาเห็นว่าความในมาตรานี้เป็นบทบัญญัติถึงขั้นตอนเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการทำสัญญาประกันแต่ละฝ่ายเพื่อมิให้ก้าวกายหรือซ้ำซ้อนกันกล่าวคือ ถ้าทำสัญญาประกันต่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการสัญญาประกันนั้นใช้ได้จนกว่าผู้ต้องหาถูกศาลสั่งขังระหว่างสอบสวน หรือจนถึงศาลประทับฟ้อง “เท่านั้น” จะใช้เกินเลยไปกว่านั้นมิได้ เพราะต่อจากนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของศาล ความในมาตรานี้จึงมิใช่เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับความรับผิดของนายประกัน ความรับผิดของนายประกันมีเพียงใดต้องพิจารณาตามกฎหมายแพ่งดังที่วินิจฉัยข้างต้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ”

Share