คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2738/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

พ.ร.บ. ล้มละลายฯ มิได้บัญญัติเรื่องทิ้งฟ้องหรือการขาดนัดพิจารณาไว้โดยเฉพาะจึงต้องนำบทบัญญัติแห่งป.วิ.พ. มาใช้บังคับโดยอนุโลม โจทก์สืบพยานไปบ้างแล้วการที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดต่อมาจึงมิใช่กรณีจะถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องหรือขาดนัดพิจารณา แต่เป็นกรณีที่โจทก์ไม่มาตรงตามกำหนดนัดเพื่อสืบพยานโจทก์ต่อไปถือได้เพียงว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบเพิ่มเติมจากที่ได้สืบไปแล้ว ซึ่งศาลอาจสั่งงดสืบพยานโจทก์เสียได้เท่านั้น ไม่ชอบที่จะจำหน่ายคดีโจทก์.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด และพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย
จำเลยให้การต่อสู้คดีปฏิเสธฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว และได้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์อันเป็นนัดสุดท้าย ครั้นถึงวันนัดฝ่ายโจทก์ไม่มาศาล คงมาแต่ทนายจำเลย ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ทราบนัดโดยชอบแล้วเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่กำหนดถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง จึงมีคำสั่งจำหน่ายคดี
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาใหม่นับแต่วันที่โจทก์ไม่มาศาลตามวันเวลาที่โจทก์ขอเลื่อนสืบพยานไว้ต่อไป แล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในคดีได้ความว่า ในการดำเนินกระบวนพิจารณาได้มีการสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว คือ ในวันที่ 13กุมภาพันธ์ 2530 และวันที่ 15 เมษายน 2530 แล้วโจทก์ขอเลื่อนไปสืบพยานโจทก์ต่อในวันที่ 9 มิถุนายน 2530 ครั้นถึงวันนัดดังกล่าวโจทก์และจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2530 เวลา 9 นาฬิกา ครั้นถึงวันเวลานัดคงมาศาลแต่ทนายจำเลย ส่วนฝ่ายโจทก์ไม่มีผู้ใดมาโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง และให้จำหน่ายคดี พิเคราะห์แล้ว ในเรื่องทิ้งฟ้องหรือการขาดนัดพิจารณานั้น พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงต้องนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม คดีนี้ได้มีการสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว การที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดต่อมา มิใช่กรณีที่จะถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 และมิใช่โจทก์ขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 201 หากแต่เป็นกรณีที่โจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดเพื่อสืบพยานโจทก์ต่อไป ซึ่งอาจถือได้เพียงว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบเพิ่มเติมจากที่ได้สืบไปแล้ว และศาลอาจสั่งงดสืบพยานโจทก์เสียได้เท่านั้น จึงเป็นการสมควรที่ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไปเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคดีเพื่อให้ได้ความจริงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 9หรือ มาตรา 10 จะจำหน่ายคดีเสียทีเดียวหาชอบไม่ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งหรือคำพิพากษา

Share