แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องหาว่าจำเลยมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบโดยคำขอท้ายฟ้องระบุอ้างพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 24ซึ่งเป็นบทมาตราความผิดและมาตรา 50 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนมาตรา 24 มาแล้ว เมื่อศาลฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 24 พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 แม้คำขอท้ายฟ้องโจทก์จะมิได้ระบุอ้างมาตรา 18 พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2512 ซึ่งยกเลิกแก้ไขเพิ่มเติมบัญญัติกำหนดโทษขึ้นใหม่แทนกำหนดโทษในมาตรา 50 เดิม ศาลก็ลงโทษจำเลยตามกำหนดโทษในมาตรา 18 พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบบุหรี่ซิกาแรตตราหัวไก่ที่ผลิตในต่างประเทศจำนวน ๒,๐๐๐ ซอง น้ำหนัก ๔๐,๐๐๐ กรัมที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ ซึ่งจำเลยจะต้องมีหน้าที่ปิดแสตมป์ยาสูบคิดเป็นค่าแสตมป์ ๖,๔๐๐ บาท ทั้งนี้จำเลยมิได้รับยกเว้นโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๑๙, ๒๔, ๔๔, ๔๙, ๕๐พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๗ ริบบุหรี่ของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยมีบุหรี่ของกลางไว้เพื่อจำหน่ายพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๒๔,๔๔, ๕๐ พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๘ ให้ปรับจำเลย ๙๖๖,๐๐๐ บาท ริบบุหรี่ของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยทำผิดพระราชบัญญัติยาสูบตามที่โจทก์ฟ้องแต่โจทก์ขอให้ลงโทษปรับจำเลยเพียง ๑๐ เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๗ เท่านั้นพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ปรับจำเลย ๑๐ เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๗เป็นเงิน ๖๔,๐๐๐ บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ได้อ้างมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาสูบแล้ว แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ศาลลงโทษจำเลยฐานมียาสูบไว้เพื่อจำหน่ายไม่ได้ปิดแสตมป์ยาสูบ แม้โจทก์จะมิได้อ้างมาตรา ๑๘ พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาด้วยศาลก็ลงโทษปรับ ๑๕ เท่า ตามมาตรา ๑๘ พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓)พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้
ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามฟ้องโจทก์กล่าวมาชัดเจนว่าจำเลยบังอาจมีไว้เพื่อขายซึ่งบุหรี่ซิกาแรตตราหัวไก่ที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ และคำขอท้ายฟ้องโจทก์ได้ระบุอ้างพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๒๔ ซึ่งเป็นบทมาตราความผิดและมาตรา ๕๐ ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนมาตรา ๒๔ มาแล้ว เป็นแต่โจทก์มิได้อ้างพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๘ซึ่งบัญญัติยกเลิกแก้ไขเพิ่มเติมความในมาตรา ๕๐ มาเท่านั้น ตามความในมาตรา ๑๘ พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒ ที่บัญญัติขึ้นใหม่ ก็ยังเรียกว่ามาตรา ๕๐ อยู่นั่นเอง การที่โจทก์มิได้ระบุอ้างมาจึงมิทำให้ฟ้องโจทก์ขาดความสมบูรณ์ เมื่อศาลฟังว่าจำเลยกระทำการฝ่าฝืนเป็นความผิดตามมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ ซึ่งมีโทษกำหนดไว้ในมาตรา ๕๐ แล้วแม้โจทก์จะมิได้ระบุอ้างมาตรา ๑๘พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาในคำขอท้ายฟ้องด้วยศาลก็ลงโทษจำเลยตามกำหนดโทษในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติยาสูบที่กล่าวนี้ได้
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็น ปรับสิบห้าเท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิด นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์