แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ใบมอบอำนาจของผู้ร้องมีข้อความว่าผู้ร้องขอมอบอำนาจให้ ส. ยื่นคำร้องขอคืนทรัพย์ที่ถูกริบต่อศาลแขวงนครสวรรค์ในความผิด พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ โดยให้มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนผู้ร้องได้ แต่มิได้มีการระบุเลขคดีและชื่อคู่ความในคดีว่าเป็นผู้ใด ซึ่งในเรื่องนี้ ส. เบิกความตอบคำถามติงของทนายผู้ร้องรับว่าผู้ร้องมีคดีร้องขอคืนของกลางทั้งที่ศาลชั้นต้นและศาลแขวงนครสวรรค์ ผู้ร้องมอบอำนาจให้ ส. ยื่นคำร้องขอคืนของกลางโดยกระทำพร้อมกันหลายคดี ข้อเท็จจริงดังกล่าวแสดงให้เห็นได้ว่าผู้ร้องมอบอำนาจให้ ส. ยื่นคำร้องคดีนี้โดยระบุชื่อศาลในใบมอบอำนาจผิดพลาด และการร้องขอคืนของกลางก็เป็นสาขาคดีที่เจ้าของทรัพย์จะต้องยื่นต่อศาลที่มีคำสั่งให้ริบทรัพย์นั้นในคดีหลัก ดังนั้น แม้ใบมอบอำนาจที่ระบุชื่อศาลผิดพลาดไปแต่ได้มายื่นที่ศาลชั้นต้นที่มีอำนาจไต่สวนพิจารณาคำร้องของผู้ร้องตรงตามเจตนาที่แท้จริงของผู้ร้องว่ามอบอำนาจให้ ส. ยื่นคำร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลางคดีนี้แล้ว ผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องคดีนี้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (8), 134 วรรคหนึ่ง, 160 วรรคสาม, 160 ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 42 วรรคหนึ่ง, 64, 66 และริบรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน ขกม นว 811 ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลาง และมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้สั่งคืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องมิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถจักรยานยนต์ของกลาง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนของกลางเพื่อประโยชน์แก่จำเลย และผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองโดยที่คู่ความไม่อุทธรณ์ฎีกาว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลางในคดีนี้ และมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมอบอำนาจให้นายสมทรัพย์ ทรัพย์เมือง ร้องขอรถจักรยานยนต์ของกลางคดีนี้คืนหรือไม่ ผู้ร้องฎีกาว่าผู้ร้องมอบอำนาจให้นายสมทรัพย์มายื่นคำร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลางคดีนี้จริงแต่พิมพ์ข้อความในใบมอบอำนาจผิดพลาดไปเป็นศาลแขวงนครสวรรค์ และได้นำคำร้องมายื่นที่ศาลชั้นต้น (ศาลเยาวชนและครอบครัว) มิได้นำไปยื่นที่ศาลแขวงนครสวรรค์แต่อย่างใดนั้น เห็นว่า ใบมอบอำนาจของผู้ร้องตามเอกสารหมาย ร.2 มีข้อความว่าผู้ร้องขอมอบอำนาจให้นายสมทรัพย์ ทรัพย์เมือง ยื่นคำร้องขอคืนทรัพย์ที่ถูกริบต่อศาลแขวงนครสวรรค์ในความผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบก โดยให้มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนผู้ร้องได้ แต่มิได้มีการระบุเลขคดีและชื่อคู่ความในคดีว่าเป็นผู้ใด ซึ่งในเรื่องนี้นายสมทรัพย์เบิกความตอบคำถามติงของทนายผู้ร้องรับว่าผู้ร้องมีคดีขอคืนของกลางทั้งที่ศาลชั้นต้นและศาลแขวงนครสวรรค์ผู้ร้องมอบอำนาจให้นายสมทรัพย์ยื่นคำร้องขอคืนของกลางโดยกระทำพร้อมกันหลายคดี ข้อเท็จจริงดังกล่าวแสดงให้เห็นได้ว่าผู้ร้องมอบอำนาจให้นายสมทรัพย์ยื่นคำร้องคดีนี้โดยระบุชื่อศาลในใบมอบอำนาจตามเอกสารหมาย ร.2 ผิดพลาด และการร้องขอคืนของกลางก็เป็นสาขาคดีที่เจ้าของทรัพย์จะต้องยื่นต่อศาลที่มีคำสั่งให้ริบทรัพย์นั้นในคดีหลัก ดังนั้น แม้ใบมอบอำนาจที่ระบุชื่อศาลผิดพลาดไปแต่ได้มายื่นที่ศาลชั้นต้นที่มีอำนาจไต่สวนพิจารณาคำร้องของผู้ร้องตรงตามเจตนาที่แท้จริงของผู้ร้องว่ามอบอำนาจให้นายสมทรัพย์ ทรัพย์เมือง ยื่นคำร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลางคดีนี้แล้ว ผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องคดีนี้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น