คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2724/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมตั้งผู้ร้องกับ น. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย แต่ผู้ตายมีหรือเคยมีบัญชีเงินฝากในธนาคารต่างๆ การที่จะสอบสวนบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ตายเพื่อจัดการมรดก จะต้องมีคำสั่งของศาลก่อน ดังนี้ถือได้ว่า มีเหตุขัดข้องในการจัดการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713(2) แล้ว นอกจากนี้ การที่ผู้ร้องกล่าวในคำร้องอีกว่า หากผลการไต่สวนของศาลปรากฏว่าพินัยกรรมไม่สมบูรณ์หรืออาจจะด้วยประการใดก็ตาม ไม่สามารถจะใช้ประโยชน์แห่งพินัยกรรมได้ ก็ขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกโดยไม่มีพินัยกรรม ซึ่งผู้คัดค้านไว้ด้วยว่า พินัยกรรมของผู้ตายเป็นพินัยกรรมปลอมกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713(3) ดังนี้ ผู้ร้องชอบที่จะใช้สิทธิทางศาล ขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ได้

ย่อยาว

ผู้ร้องร้องว่า ผู้ร้องเป็นทายาทโดยธรรมของนางบุญช่วย กิ่งวาทีนางบุญช่วย กิ่งวาที ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2511 นางบุญช่วยได้ทำพินัยกรรมตั้งผู้ร้องและนายนรินทร์เป็นผู้จัดการมรดกทรัพย์สินของนางบุญช่วย แต่เนื่องจากนางบุญช่วยหรือนายสวนสามีนางบุญช่วย มีหรือเคยมีบัญชีเงินฝากในธนาคาร การที่จะสอบสวนบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อจัดการมรดก ต้องมีคำสั่งศาล ขอให้ศาลไต่สวนคำร้อง และหากผลการไต่สวนปรากฏว่า พินัยกรรมไม่สมบูรณ์ ก็ขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกโดยไม่มีพินัยกรรม

ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นสามีนางบุญช่วยมีกรรมสิทธิ์รวมในทรัพย์สินของผู้ตาย ถ้าผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมตั้งผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดก หรือพินัยกรรมของผู้ตาย ถ้าหากมีอยู่ตกเป็นอันไร้ผล ผู้คัดค้านผู้เดียวเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้จัดการมรดก พินัยกรรมของผู้ตายเป็นพินัยกรรมปลอม หากผู้ตายทำพินัยกรรมตั้งผู้ร้องและนายนรินทร์ร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกจริงย่อมสามารถจัดการมรดกรายนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งศาล ขอให้ยกคำร้อง หากศาลเห็นสมควรให้มีผู้จัดการมรดก ก็ขอให้ตั้งผู้คัดค้าน

ศาลชั้นต้นสืบพยานผู้ร้องยังไม่หมดปาก เห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้ว ให้งดการพิจารณาคดี และวินิจฉัยว่าพินัยกรรมของผู้ตาย แสดงว่าผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ศาลมีคำสั่งตั้งอีก ผู้ร้องยังไม่เกิดความจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิในทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 หามีความจำเป็นต้องตั้งผู้จัดการมรดกอีกไม่ พิพากษายกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาต่อไปตามรูปคดี

ผู้คัดค้านฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ในคำร้องของผู้ร้องจะกล่าวในตอนแรกว่าพินัยกรรมของผู้ตายตั้งให้ผู้ร้องและนายนรินทร์ อัมพุช เป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ แต่ผู้ร้องก็กล่าวในคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นน้องร่วมบิดามารดาเดียวกับผู้ตาย จึงเป็นทายาทโดยธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 และ ว่าเนื่องจากผู้ตายหรือนายสวนมีหรือเคยมีบัญชีเงินฝากในธนาคารต่าง ๆ การที่จะสอบสวนบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ตายและนายสวนเพื่อจัดการมรดกนั้น จะต้องมีคำสั่งศาล พอถือได้ว่ามีเหตุขัดข้องในการจัดการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713(2) กล่าวคือ หากไม่มีคำสั่งศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกการจัดการเกี่ยวกับเงินที่ผู้ตายมีบัญชีเงินฝากไว้หลายธนาคารอาจขัดข้อง นอกจากนี้ผู้ร้องได้กล่าวในคำร้องอีกว่า หากผลการไต่สวนของศาลปรากฏว่า พินัยกรรมไม่สมบูรณ์หรืออาจจะด้วยประการใดก็ตาม ไม่สามารถจะใช้ประโยชน์แห่งพินัยกรรมได้ก็ขอตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกโดยไม่มีพินัยกรรมซึ่งข้อนี้ ผู้คัดค้านก็คัดค้านไว้ว่าพินัยกรรมของผู้ตายเป็นพินัยกรรมปลอม กรณีจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713(3) ผู้ร้องจึงชอบที่จะใช้สิทธิทางศาล ขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ได้

พิพากษายืน

Share