แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้จะได้ความว่าจำเลยถลกกระโปรงและถอด กางเกงในของผู้เสียหาย และจำเลยลงเหนือเข่า โดยจำเลยนอนทับผู้เสียหายและใช้เข่าแยกขา ผู้เสียหายออกก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงจากการที่แพทย์ตรวจร่างกาย ของผู้เสียหายในวันเกิดเหตุว่า ไม่ปรากฏรอยช้ำของอวัยวะเพศไม่พบรอยฉีกขาดของเยื่อพรหมจารี และไม่พบเชื้อ อสุจิในช่องคลอดของผู้เสียหาย ดังนี้ ย่อมแสดงว่าอวัยวะเพศของจำเลยยังมิได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดเพียงพยายามข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพรากผู้เยาว์ และข่มขืนกระทำชำเราตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318, 276
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาเรียงกระทงลงโทษ ฐานข่มขืนกระทำชำเราตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 จำคุก 4 ปี ฐานพรากผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 6 ปี คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ประกอบด้วยมาตรา 80 จำคุก 2 ปี 8 เดือนรวมโทษตามมาตรา 318 ซึ่งศาลชั้นต้นจำคุก 2 ปีแล้วเป็นโทษจำคุก4 ปี 8 เดือน จำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวน ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 3 ปี 1 เดือน 10 วัน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยถลกกระโปรงและถอดกางเกงในของผู้เสียหายลงมาเหนือเข่าถอดกางเกงของจำเลยลงมาเหนือเข่าไม่น่าจะทำให้จำเลยข่มขืมกระทำชำเราได้สะดวกเพราะขาของผู้เสียหายแยกออกไม่ได้มากเนื่องจากติดกางเกงในของผู้เสียหาย จำเลยเองก็แยกขาไม่ได้เพราะติดกางเกงในของจำเลยเช่นกันทำให้จำเลยไม่อาจเอาอวัยวะเพศของจำเลยใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายได้ และเมื่อแพทย์ตรวจร่างกายของผู้เสียหายแล้วก็ไม่ปรากฏรอยช้ำของอวัยวะเพศ ไม่พบรอยฉีกขาดของเยื่อพรหมจารี และไม่พบเชื้ออสุจิในช่องคลอดของผู้เสียหาย หากอวัยวะเพศของจำเลยล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายแม้เพียงเล็กน้อยอวัยวะเพศของผู้เสียหายก็น่าจะมีรอยช้ำบ้าง เยื่อพรหมจารีก็ต้องฉีกขาดหรือได้พบเชื้ออสุจิในช่องคลอดของผู้เสียหายหลงเหลืออยู่บ้าง เพราะแพทย์ก็ได้ตรวจร่างกายของผู้เสียหายในวันเกิดเหตุนั้นเอง ศาลฎีกาจึงเชื่อว่าอวัยวะเพศของจำเลยยังมิได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นเพียงพยายามกระทำความผิดฐานข่มขืมกระทำชำเราผู้เสียหายเท่านั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว”
พิพากษายืน.