คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2712/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การนำพระพุทธรูปซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนสืบมาแต่เดิมไปเก็บซ่อนไว้เพื่อให้พ้นจากการโจรกรรม หาทำให้พระพุทธรูปนั้นพ้นจากการเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนสักการะบูชาไม่ จำเลยเพียงแต่ใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะไปลักและบรรทุกเอาพระพุทธรูปไปจากวัดที่เกิดเหตุ ไม่ได้ใช้ในการลักพระพุทธรูปดังกล่าวโดยตรง รถยนต์นั้นจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา335, 335 ทวิ, 336 ทวิ, 357 ของกลางคือพระพุทธรูปคืนผู้เสียหายส่วนรถยนต์ให้ริบ จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ วัดทุ่งนาใหม่ ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา335 ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิ, 83 จำคุกคนละ 9 ปี จำเลยที่ 1ให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 6 ปี จำเลยที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 จำคุก 3 ปี คืนพระพุทธรูปของกลางให้แก่โจทก์ร่วม ส่วนรถยนต์ของกลางคืนเจ้าของ โจทก์และจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 วรรคสอง (ที่ถูกเป็นมาตรา 335(7)วรรคแรก) ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3 และที่ 4ริบรถยนต์ของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโจทก์และจำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “สำหรับปัญหาที่ว่า พระพุทธรูปของกลางเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนหรือไม่ จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า พระพุทธรูปของกลางถูกเก็บซุกซ่อนไว้มิดชิดพ้นสายตาประชาชน และมิได้นำออกมาให้ประชาชนสักการะบูชาเป็นเวลานานแล้ว จึงมิใช่เป็นพระพุทธรูปอันเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนนั้น เห็นว่าการนำพระพุทธรูปของกลางซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนสืบมาแต่เดิมไปเก็บซ่อนไว้เพื่อให้พ้นจากการโจรกรรม หาทำให้พระพุทธรูปของกลางพ้นจากการเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนสักการะบูชาไม่
ส่วนปัญหาที่ว่ารถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์ที่ควรริบหรือไม่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า รถยนต์ของกลางเป็นเพียงพาหนะสำหรับใช้ไปมาไม่ใช่องค์ประกอบสำคัญในการลักทรัพย์หรือพาเอาทรัพย์ไปจึงริบไม่ได้นั้น เห็นว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 เพียงแต่ใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะไปลักและบรรทุกเอาพระพุทธรูปของกลางไปจากวัดที่เกิดเหตุเท่านั้น ไม่ได้ใช้รถยนต์ของกลางในการลักพระพุทธรูปของกลางโดยตรงจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิด อันจะพึงริบได้ ที่ศาลอุทธรณ์ให้ริบไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาจำเลยที่ 2ฟังขึ้นบางส่วน ส่วนฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนรถยนต์ของกลางแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share