คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
จำเลยรับฝากข้าวเปลือกของโจทก์ไว้เพื่อโจทก์จะได้เป็นผู้ขายตามราคาที่กำหนด แต่จำเลยเอาข้าวเปลือกไปขายเสีย จำเลยจึงต้องใช้ราคาข้าวเปลือกให้แก่โจทก์ อายุความที่จะใช้สิทธิเรียกร้องมีกำหนด 10 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๐๕ จำเลยได้ไปพูดขอรับรองฝากข้าวเปลือกจ้าวของโจทก์ น้ำหนัก ๑๔,๑๐๔ กิโลกรัม ราคา ๑๑,๒๘๓.๒๐ บาท ไปเก็บไว้ที่ฉางข้าวในเมืองศรีสะเกษ โดยตกลงกันว่าเมื่อข้าวเปลือกขึ้นราคาสูงถึงกิโลกรัมละ ๘๐ สตางค์เมื่อไรก็ขอให้โจทก์ไปขายเอาเงินเมื่อนั้น ส่วนจำเลยมีสิทธิได้ค่าระวางบรรทุกกิโลกรัมละ ๖ สตางค์ เมื่อขายข้าวได้แล้วให้หักเอา ต่อมาวันรุ่งขึ้นจำเลยเอารถยนต์ไปบรรทุกข้าวเปลือกจ้าวของโจทก์มาเก็บไว้ที่ฉางข้าวในเมืองศรีสะเกษตามที่ตกลงกัน ต่อมาในเดือนตุลาคม ๒๕๐๕ โจทก์จะจัดการขายข้าวเปลือกของโจทก์ตามที่ตกลงกัน จำเลยบอกว่าได้ขายข้าวของโจทก์หมดแล้ว จะหาเงินมาชำระให้ โจทก์ทวงถามหลายครั้ง แต่จำเลยยังไม่ชำระให้ จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่า ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นเสมือนหนึ่งว่าจำเลยเป็นผู้รับฝากข้าวเปลือกจากโจทก์ แต่ตอนท้ายกลับมีข้อความทำนองว่าจำเลยรับขนข้าวของโจทก์ไปฝากฉางที่ในเมือง ฟ้องโจทก์จึงเคลือบคลุม จำเลยไม่เคยตกลงรับฝากหรือรับขนไปฝากฉางดังที่โจทก์ฟ้อง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าข้าวเปลือก ๔,๘๓๔ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องของโจทก์นั้น ข้อความแสดงชัดว่าจำเลยอยู่ในฐานะเป็นผู้รับฝากข้าวเปลือกไว้เพียงชั่วคราว เพื่อรอให้ราคาข้าวเปลือกขึ้นสูงถึงกิโลกรัมละ ๘๐ สตางค์เมื่อไรก็ให้โจทก์ไปขายเอาเงินเมื่อนั้น เมื่อขายข้าวเปลือกได้แล้วจำเลยได้ค่าระวางบรรทุกเพียงกิโลกรัมละ ๖ สตางค์ สารสำคัญมิได้อยู่ที่การรับขนข้าวแต่อย่างใด เพราะเมื่อรับฝากก็ต้องจัดการขนเอาไป คำฟ้องของโจทก์แสดงชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ บังคับทั้งขออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๒ แล้ว
ส่วนปัญหาข้อหลังเห็นว่าเป็นเรื่องจำเลยรับฝากข้าวเปลือกไว้เพื่อโจทก์จะได้เป็นผู้ขายตามราคาที่กำหนด แต่จำเลยเอาข้าวเปลือกของจำเลยไปขายเสีย จำเลยต้องใช้ราคาข้าวเปลือกที่ยังขาดอยู่ให้โจทก์ กรณีเป็นเรื่องเรียกราคาข้าเปลือกที่ยังขาดอยู่ อายุความที่จะใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้รายนี้มีอายุความ ๑๐ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๔ ไม่ใช่มีกำหนดอายุความ ๒ ปี ดังที่จำเลยฎีกา
พิพากษายืน

Share