แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์หนังสือแจกงานศพและค่าเจดีย์บรรจุอัฐิของผู้ตาย ถ้าได้จ่ายไปเป็นจำนวนตามสมควรแก่ฐานะของผู้ตายถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 443 วรรคแรก แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ขับรถของจำเลยที่ 2 ไปกิจธุระของจำเลยที่ 2 โดยประมาท เป็นเหตุให้ชนบิดาโจทก์ถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 2 ได้นั่งไปด้วย จำเลยที่ 2 จึงอยู่ในฐานะผู้ครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะนั้นตามกฎหมาย จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในการปลงศพเป็นเงิน 50,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธความรับผิด
ศาลชั้นต้นเห็นว่า พยานโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยประมาท พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน 43,500 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ชนบิดาโจทก์ถึงแก่ความตาย ในเรื่องค่าสินไหมทดแทนในการปลงศพเฉพาะค่าถวายพระที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้ 15,000 บาทนั้น ศาลฎีกาเห็นควรให้เพียง 1,500 บาท ส่วนค่าพิมพ์หนังสือแจกงานศพและค่าทำเจดีย์บรรจุอัฐิผู้ตายนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าผู้ตายเป็นอดีตข้าราชการชั้นโทเป็นครูสอนวิชาวาดเขียนที่โรงเรียนวัดเศวตฉัตรเคยเขียนภาพในวัดพระแก้ว มีลูกศิษย์มากโจทก์ได้ใช้จ่ายค่าพิมพ์หนังสือแจกงานศพไป 5,000 บาท และค่าเจดีย์บรรจุอัฐิเพียง 2,500 บาท นับว่าเป็นจำนวนตามสมควรแก่ฐานะของผู้ตาย จึงถือได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 443 วรรคแรก แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยจึงต้องรับผิด
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เฉพาะที่ใช้ถวายพระเป็นเงิน15,000 บาท นั้น เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองชดใช้เพียง 1,500 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์