คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2702/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ซ่อมรถแทรกเตอร์ให้จำเลยรับมอบไปตามที่ตกลงจ้างกันแล้ว จำเลยเอารถออกใช้งาน ปรากฏว่ากระบอกไฮโดรลิครั่วไม่มีแรงดันยกใบมีดด้านหน้า ความชำรุดบกพร่องเหล่านี้จำเลยไม่พึงพบได้ในขณะส่งมอบ ซึ่งโจทก์ยังจะต้องรับผิดอยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 598 และจำเลยมีสิทธิที่จะยึดหน่วงสินจ้างไว้ได้ตามมาตรา 599 เพื่อให้โจทก์แก้ไขความชำรุดบกพร่องให้เรียบร้อยภายในกำหนดเวลาอันสมควรถ้าโจทก์ไม่ยอมแก้ไข จำเลยจึงจะเอารถแทรกเตอร์ไปให้คนอื่นซ่อมได้ โดยโจทก์จะต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น ตามมาตรา 594 เมื่อโจทก์ซ่อมรถแทรกเตอร์ตามที่จำเลยแจ้งให้ทราบไปครั้งหนึ่งแล้ว จำเลยนำรถไปใช้งานหนักถึง 5 เดือนแล้วจึงให้บริษัท ย. ยกเครื่องใหม่ แม้ว่าโจทก์ยังจะต้องรับผิดสำหรับรายการซ่อมบางรายการที่โจทก์ซ่อมมาแล้วแต่เมื่อจำเลยไม่แจ้งให้โจทก์ทำการแก้ไขความชำรุดบกพร่องเสียก่อน และโจทก์ปฏิเสธ โจทก์จึงไม่ต้องรับผิด และจำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงค่าจ้างที่ค้างไว้ต่อไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าซ่อมรถแทรกเตอร์ที่ยังค้างชำระอยู่อีก 54,831.60 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระหมดให้แก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ไม่สามารถซ่อมรถแทรกเตอร์ให้ใช้การได้ จำเลยต้องว่าจ้างบุคคลอื่นทำการซ่อมจนเสร็จโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาเงินตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วเชื่อว่าโจทก์ได้ทำการซ่อมรถแทรกเตอร์ให้จำเลยทุกประการตามที่ตกลงกันแล้ว จำเลยเอารถออกใช้งาน ปรากฏว่าริปเปอร์ (กระเช้าตักดิน) เกิดระเบิดตรงท่อไฮโดรลิคที่ใช้บังคับริปเปอร์ขึ้นลงต้องรื้อออกกินเวลา 1 วัน รุ่งขึ้นเอารถออกใช้งานอีก ปรากฏว่ากระบอกไฮโดรลิครั่วจึงไม่มีแรงดันยกใบมีดด้านหน้าได้และแขนขวาที่ให้ซ่อมก็หลุดออก ทับเซ็นเตอร์พินหัก เห็นว่า ความชำรุดบกพร่องเหล่านี้จำเลยไม่พึงพบได้ในขณะส่งมอบซึ่งโจทก์ยังจะต้องรับผิดอยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 589และจำเลยมีสิทธิที่จะยึดหน่วงสินจ้างไว้ได้ตามมาตรา 599 แต่การที่จำเลยจะยึดหน่วงสินจ้างไว้ได้นั้น ก็เพียงเพื่อให้โจทก์แก้ไขความชำรุดบกพร่องให้เรียบร้อยภายในกำหนดเวลาอันสมควร ซึ่งจำเลยแจ้งให้โจทก์ทราบ ถ้าโจทก์ไม่ยอมแก้ไขความชำรุดบกพร่อง จำเลยจึงจะเอารถแทรกเตอร์ไปให้คนอื่นซ่อมได้โดยโจทก์จะต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นตามมาตรา 594 แต่เมื่อจำเลยได้แจ้งความชำรุดบกพร่องดังกล่าวให้โจทก์ทราบ โจทก์ได้ส่งช่างไปซ่อมให้ การที่โจทก์ต้องเอารถไปให้บริษัทยนตรภัณฑ์ จำกัด ซ่อมอีกครั้งหนึ่ง น่าจะเป็นเพราะรถแทรกเตอร์ใช้งานหนักมาตลอด 5 เดือนเศษ จึงต้องยกเครื่องใหม่ และตามรายการที่โจทก์ซ่อมมาแล้ว แต่บริษัทยนตรภัณฑ์ จำกัด ซ่อมให้ใหม่ก็มีแต่กระบอกไฮโดรลิคยกใบมีด ไส้กรองและเปลี่ยนลูกรอกเท่านั้น แม้ว่าโจทก์ยังจะต้องรับผิดอยู่สำหรับรายการซ่อม 3 รายการนี้ แต่เมื่อจำเลยไม่แจ้งให้โจทก์ทำการแก้ไขความชำรุดบกพร่องเสียก่อน และโจทก์ปฏิเสธ การที่จำเลยเอารถแทรกเตอร์ไปให้บริษัทยนตรภัณฑ์จำกัด ทำการซ่อม โจทก์จึงไม่ต้องรับผิดและจำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงค่าจ้างที่ค้างไว้ต่อไป

พิพากษากลับ ให้จำเลยจ่ายค่าจ้างที่ค้าง 54,831.60 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

Share